โดย Ambar Warrick
Investing.com-- ค่าเงินเอเชียร่วงลงในวันพฤหัสบดีเนื่องจากคำมั่นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แม้จะมีภาวะเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงก็ตาม ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในขณะที่แนวโน้มการเติบโตที่แย่ลงสำหรับสิงคโปร์ก็ส่งผลกระทบเช่นกัน
หยวนจีน ดิ่งลงเกือบ 0.3% ขณะที่ เยนญี่ปุ่น อ่อนค่าลง 0.2% สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ส่วนใหญ่ซื้อขายติดลบหลังเพิ่มขึ้นในวันพุธ
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากลดลง 1.1% ในวันพุธ
นายนีล คัชคารี ประธานเฟดแห่งมินนิอาโปลิส กล่าวในขณะที่ รายงานเงินเฟ้อสหรัฐที่อ่อนตัวเกินคาด ของวันพุธเป็นสัญญาณเชิงบวก ธนาคารกลางตั้งเป้าที่จะคงนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน
ซึ่งอาจเห็นอัตราเป้าหมายสูงถึง 4.4% ภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่า Kashkari จะถือว่าเป็นสมาชิกเฟดที่ชื่นชอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สุด แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ก็คาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะช้ากว่าก็ตาม
ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นหลังจากรายงาน โดยขณะนี้นักลงทุนคาดว่าจะมีการปรับขึ้น 50 จุดพื้นฐาน โดย ในระหว่างการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นว่าจะมีการขึ้น 75 จุด
ในเอเชีย ค่าเงิน ดอลลาร์สิงคโปร์ ร่วงลง 0.1% หลังจากที่รัฐเกาะลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีลงเหลือ 3% เป็น 4% จาก 3% เป็น 5% นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังได้แก้ไขตัวเลข GDP ไตรมาสที่สอง ให้ต่ำลง โดยอ้างว่ามีแรงปะทะที่เพิ่มขึ้นจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก
ปัญหาส่วนใหญ่มาจากจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ เศรษฐกิจแผ่นดินใหญ่กำลังดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวจากการล็อกดาวน์ของ COVID-19 ในปีนี้
ค่าเงิน บาท ทรงตัวหลังจากธนาคารกลาง ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ
ค่าเงินบาทฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดในปีนี้ ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวดีขึ้น ธนาคารกลางแห่งประเทศไทยยังส่งสัญญาณว่าจำเป็นต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
ราคาน้ำมันที่ลดลงหนุน รูเปียห์ของอินโดนีเซีย ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.5%