โดย Zhang Mengying
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเช้าวันพุธในตลาดเอเชีย ก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ ขยับลง 0.19% เป็น 106.99 เมื่อเวลา 00:35 น. ET (4:35 น. GMT)
USD/JPY ขยับขึ้น 0.08% เป็น 137.01
AUD/USD ขยับลง 0.04% เป็น 0.6935 และ NZD/USD ขยับขึ้น 0.05% เป็น 0.6236
USD/CNY เพิ่มขึ้น 0.04% เป็น 6.7661 ขณะที่ GBP/USD เพิ่มขึ้น 0.27% เป็น 1.2057
EUR/USD เพิ่มขึ้น 0.37% เป็น 1.0151 การเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปยังคงเปราะบางจากปัจจัยอุปทานก๊าซของรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียได้ปรับลดการส่งก๊าซผ่านที่ท่อ Nord Stream ไปยังเยอรมนีในวันอังคารและจะลดลงอีกในวันพุธนี้
ค่าเงินบาท USD/THB อ่อนค่าขึ้นอีก 0.27 มาอยู่ที่ 36.810 บาทต่อดอลลาร์
“อุปทานพลังงานมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นปัญหาสำคัญสำหรับเศรษฐกิจยุโรปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า” คริสตินา คลิฟตัน นักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินของออสเตรเลีย (OTC:CMWAY) กล่าวกับรอยเตอร์ส
“เงินยูโรสามารถซื้อขายได้ต่ำกว่าคู่สกุลเงิน มากกว่าแค่ช่วงสั้นๆ (และ) ไม่ช้าก็เร็ว”
ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดพื้นฐานเมื่อสิ้นสุดการประชุมนโยบายในวันพุธ
การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อจะทำให้คะแนนพื้นฐานรวมกันเพิ่มขึ้น 150 จุดในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980
Galvin Chia นักยุทธศาสตร์ด้านตลาดเกิดใหม่ของ NatWest Markets กล่าวว่า “เหมือนกับว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ให้รอแล้วจะเห็นมากกว่าการคาดการณ์ว่าจะมีเหตุการณ์ที่สร้างความประหลาดใจ”
เขาคาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะยังคงได้รับแรงหนุนจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะยาว ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี ของสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 95.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีในเดือนก.ค. ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น