โดย Zhang Mengying
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเช้าวันอังคารในตลาดเอเชีย โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยและความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่นๆ เพิ่มขึ้น 0.38% เป็น 108.43 เมื่อเวลา 01:16 น. ET (5:16 น. GMT)
USD/JPY ปรับลดลง 0.06% เป็น 137.34 ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังคงมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายที่แตกต่าง
AUD/USD ขยับลง 0.14% เป็น 0.6721 โดยขยับกลับไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 0.6716 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงและโควิดรอบใหม่ของจีน
NZD/USD ขยับลง 0.09% เป็น 0.6105
USD/CNY เพิ่มขึ้น 0.27% เป็น 6.7363 ขณะที่ GBP/USD ลดลง 0.24% เป็น 1.1861
“ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทั่วทั้งกระดาน ซึ่งสะท้อนถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มที่เราได้เห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้ นั่นคือความกลัวต่อภาวะถดถอยทั่วโลก” แครอล คอง นักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงิน ของธนาคาร Commonwealth แห่งออสเตรเลีย (OTC:CMWAY) กล่าวกับรอยเตอร์ส
ในเวลาเดียวกัน ผู้กำหนดนโยบายของเฟด “จะเน้นความสนใจไปที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปท่ามกลางความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยเพิ่มขึ้น” เธอกล่าวเสริม
“ฉันคิดว่าความเสี่ยงคือ ยูโร/ดอลลาร์ อาจร่วงลงเสมอกันในสัปดาห์นี้”
ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาอุปทานพลังงานที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากท่อส่งก๊าซเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดที่ส่งก๊าซรัสเซียไปยังเยอรมนีคือ Nord Stream 1 ได้เริ่มการบำรุงรักษาประจำปีในวันจันทร์โดยคาดว่าจะหยุดส่งก๊าซเป็นเวลา 10 วัน แต่ตลาดต่างกังวลว่ารัสเซียอาจขยายเวลาการปิดตัวลงเนื่องจากสงครามในยูเครน
นักลงทุนยังคอยรายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐฯ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแห่งแอตแลนต้ากล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรับมือกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ และย้ำถึงการสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนนี้
ในเอเชียแปซิฟิก นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการล็อกดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากหลายเมืองพบผู้ป่วยโควิด19 จากสายพันธุ์ย่อย BA.5 ของสายพันธุ์โอไมครอน ที่มีการแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ