โดย Zhang Mengying
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเช้าวันศุกร์ในเอเชีย โดยปรับตัวขึ้นก่อนข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะเผยแพร่และหลังจากที่ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.09% เป็น 103.127 เมื่อเวลา 01:09 น. ET (5:10 น. GMT)
USD/JPY ลดลง 0.40% เป็น 133.79
AUD/USD ขยับขึ้น 0.13% เป็น 0.7106 และ NZD/USD ขยับขึ้นเช่นกัน 0.19% เป็น 0.6404
USD/CNY ขยับลง 0.03% เป็น 6.6900 ขณะที่ GBP/USD ขยับขึ้น 0.10% เป็น 1.2502
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตของจีนคลายตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนในเดือนพฤษภาคม ข้อมูลอย่างเป็นทางการพบว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 8.0% เนื่องจากความต้องการเหล็ก อะลูมิเนียม และวัตถุดิบอื่น ๆ ลดลงเนื่องด้วยวิกฤตการณ์จากโควิด19
ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม
เซี่ยงไฮ้กลับมาล็อกดาวน์บางส่วนอีกครั้งเนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด19 กลุ่มใหม่ หลังจากผ่อนคลายข้อจำกัดในวันที่ 1 มิถุนายน
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนกำลังวิเคราะห์สัญญาณของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก ECB โดยจะปรับขึ้นหนึ่งในสี่ในเดือนกรกฎาคม และจะปรับขึ้นอีกหากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูง อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนขณะนี้เกิน 8% ECB จะยุติการซื้อสินทรัพย์สุทธิในวันที่ 1 กรกฎาคม 2022 นี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นทะยานขึ้นแดนบวก
ตอนนี้นักลงทุนได้เปลี่ยนจุดสนใจไปที่ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ภายในวันนี้ นักลงทุนจะหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ จากรายงานฉบับนี้
นักวิเคราะห์ของ Westpac กล่าวว่า ดัชนีดอลลาร์ ถูกตั้งค่าให้อยู่ระหว่าง 101 ถึง 105 และอาจปรับสูงขึ้นได้หากข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ และการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าเน้นย้ำผลตอบแทนที่สูงขึ้น ตามรายงานของรอยเตอร์ส
ในสกุลเงินดิจิตอล เหรียญบิทคอยน์ อยู่ที่ 29,800 ดอลลาร์