โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – เงินบาทเช้านี้เปิดตลาดเช้า (4 สิงหาคม) ที่ระดับ 33.04 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนลงมาแตะ 33.09 ซึ่งเป็นการอ่อนค่าครั้งใหม่กว่า 9% เมื่อเทียบกับสกุลอื่นในภูมิภาค จับตาประชุม กนง. บ่ายวันนี้และมาตรการคุมโควิดระบาดในประเทศ ส่วนค่าเงินบาทเทียบยูโรวันนี้อยู่ที่ 39.5365 บาทต่อยูโร
นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เช้านี้ เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องไปที่ 33.09 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 16 เดือนครั้งใหม่ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.02 บาทต่อดอลลาร์ และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่ากว่า 9% เป็นการอ่อนค่าสูงสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค
นางสาวกาญจนา ยังกล่าวอีกว่า เงินบาทเผชิญแรงขายต่อเนื่องหลังอ่อนค่าผ่านแนว 33.00 บาทต่อดอลลาร์ และมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเร่งตัวสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนแรงกดดันต่อความสามารถในการรองรับสถานการณ์ของระบบสาธารณสุขไทย อนึ่ง นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ในช่วงบ่ายวันนี้อย่างใกล้ชิด
ด้านนายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเงินบาทในวันนี้คือการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง และนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น และหนุนโดยรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาแกร่งและดีกว่าคาด ก็อาจทำให้เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลง และผู้เล่นไม่จำเป็นต้องกลับมาถือสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลบความผันผวนในตลาด
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ก็อาจทำให้เงินบาทไม่อ่อนค่าหนัก ทะลุ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐไปมาก คาดไว้ที่ 33.00-33.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยวันนี้ที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ ดัชนี ISM และ PMI ภาคบริการ และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ค. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ