โดย Peter Nurse
Investing.com - ดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงการซื้อขายของตลาดยุโรป โดยร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังมีสัญญาณบ่งชี้เพิ่มเติมว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ จากผลสรุปของการประชุมครั้งล่าสุด
เมื่อเวลา 2:55 น. ET (0755 GMT) ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.2% มาที่ 92.157 เหนือระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 92.097 ในช่วงก่อนหน้านี้เล็กน้อย
ค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินเยน ลดลง 0.1% มาที่ 109.78 ค่าเงินปอนด์ เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 1.3931 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ค่าเงินยูโร เพิ่มขึ้น 0.1% ไปอยู่ที่ 1.1856 ก่อนข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและการว่างงานของเยอรมนีจะประกาศ ในขณะที่ ค่าเงินออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 0.7385
เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ หลังจาก การประชุมสองวัน สิ้นสุดลงตามที่คาดไว้ ในขณะที่แนะนำว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังก้าวหน้าไปสู่ระดับที่สมาชิกเฟดอาจตกลงที่จะลดการซื้อพันธบัตรรายเดือน
อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์กล่าวเสริมว่า ตลาดแรงงานยังคงมีเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ครอบคลุม ก่อนที่เฟดจะเริ่มลดสินทรัพย์
ความคิดเห็นของเขาหมายความว่า นักลงทุนจะต้องจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดอย่างใกล้ชิด โดยมีการคาดว่าตัวเลข ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ที่จะประกาศในเวลา 8:30 น. ET (1230 GMT) จะลดลง ในขณะที่ตัวเลข GDP ไตรมาสที่สอง คาดว่าจะแสดงถึงการเติบโต 8.5% เพิ่มขึ้นจากการเติบโต 6.4% ในไตรมาสก่อนหน้า
“เรายังคงพบว่า มีแนวโน้มว่าจะมีการตัดสินใจที่ลดสินทรัพย์ภายในเดือนกันยายน โดยจะเริ่มชะลอการซื้อพันธบัตรตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป” นักวิเคราะห์จาก Nordea กล่าวในรายงาน “เราคาดว่าเฟดจะสามารถสรุปยอดได้ภายในฤดูร้อนปี 2022”
ทางด้าน ค่าเงินดอลลาร์เทียบกับเงินหยวน ขยับลง 0.3% มาที่ 6.4731 โดยเงินหยวนกลับมาแข็งค่าอีกครั้งเนื่องจากนโยบายการกำกับดูแลบริษัทเทคโนโลยีในตลาดหุ้น ทำให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้น
CNBC รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนได้เรียกประชุมกลุ่มธนาคารต่างประเทศและจีน รวมถึงนักลงทุนสถาบัน ให้ดำเนินการตามแนวทางเพื่อที่จะคลายความกังวลให้แก่นักลงทุน โดยจีนจะยังคงอนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ เข้าจดทะเบียนในสหรัฐได้ต่อไป