InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนให้ดอลลาร์ฟื้นตัว หลังจากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.39% แตะที่ระดับ 108.037
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 157.10 เยน จากระดับ 156.00 เยนในวันศุกร์ (20 ธ.ค.), แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8985 ฟรังก์ จากระดับ 0.8918 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4372 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4353 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0412 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0445 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2535 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2599 ดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.536% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.731%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 5.9% สู่ระดับ 664,000 ยูนิตในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 660,000 ยูนิต จากระดับ 627,000 ยูนิตในเดือนต.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค.
ทางด้าน Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 104.7 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 113.8 จากระดับ 112.8 ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เป็นการสำรวจความเชื่อมั่นที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้า รวมทั้งสถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน