ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากในระหว่างวันราคาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,862.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชีย ท่ามกลางความหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้าน COVID-19 หลังจากรัสเซียประกาศว่าได้อนุมัติวัคซีนต้าน COVID-19 นอกจากนี้การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. “สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ถือเป็นสัญญาณเพิ่มเติมที่สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากตัวเลขสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาต่างก็ออกมาดีเกินคาด
สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งทองคำรวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นั่นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 0.662% จนทำให้ค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) จากการใช้เงินลงทุนในการซื้อขายทองคำแทนที่จะใช้ไปซื้อพันธบัตร หรือ ฝากธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ย เพิ่มสูงขึ้นจนกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาในตลาด จนส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นกว่า 87 ดอลลาร์ต่อออนซ์จาก Low ในระหว่างวันไปสู่ High ระหว่างวันที่ 1,949.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -7.30 ตันสู่ระดับ 1,250.63 ตันซึ่งเป็นการลดการถือครองเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่กระนั้นในปี 2020 กองทุน SPDR ถือครองทองคำยังคงถือครองทองคำเพิ่ม +357.38 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดวานนี้ และแนวต้านโซน 1,971 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยังไม่สามารถผ่านได้ ยังคงต้องระมัดระวังแรงขาย เนื่องจากช่วงราคามีการแกว่งตัวผันผวนและการเหวี่ยงตัวของราคาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดีหลังจากราคาทิ้งตัวลงแรง ซึ่งประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,906-1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์: แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,949-1,971 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อคืนเพื่อทำกำไรหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,906-1,884 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยสถานะขายตัดขาดทุนหากราคาผ่าน 1,971 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อัพเดตราคาทองคำ GOLD SPOT XAU/USD
สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด