InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (15 มี.ค.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลหลายชุดที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงทรงตัวและอ่อนแอเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สามารถคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานขึ้นหรือลดจำนวนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่วางแผนไว้ในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ระดับ 103.432 และปรับตัวขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนม.ค.
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.5% สู่ระดับ 149.02 เยน และปรับตัวขึ้น 1.3% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนม.ค.
ยูโรปรับตัวขึ้นเล็กน้อยแตะ 1.0889 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลง 0.1% แตะ 1.2737 ดอลลาร์
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนม.ค. และเมื่อเทียบรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.2% ในเดือนก.พ.
ส่วนข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 76.5 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 77.4 จากระดับ 76.9 ในเดือนก.พ.
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.0% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.พ. นอกจากนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 2.9% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.พ.
นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า (19-20 มี.ค.) แม้ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยใด ๆ แต่การเปิดเผยข้อมูลราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคในสหรัฐที่ร้อนแรงเกินคาดในสัปดาห์นี้ ทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
นอกจากนี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์หน้าด้วย ซึ่งคาดว่าจะยุติการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ