InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลง 3 วันติดต่อกัน และได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 470.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.74 จุด หรือ +0.59%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,401.35 จุด เพิ่มขึ้น 82.66 จุด หรือ +1.13%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,567.35 จุด เพิ่มขึ้น 135.66 จุด หรือ +0.83% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,459.09 จุด เพิ่มขึ้น 12.80 จุด หรือ +0.17%
ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นริชมอนด์ซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องประดับคาร์เทียร์นั้น พุ่งขึ้น 10.4% หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 3 สูงกว่าคาด ขณะที่รายได้พุ่งขึ้นในจีน
หุ้นสินค้าหรูหราอื่น ๆ อาทิ แอลวีเอ็มเอช และเคอริง พุ่ง 2.5% และ 2.2% ตามลำดับ และช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือนบวก 1.3%
หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ พุ่ง 5.2% โดยหุ้นฟลัตเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพนันออนไลน์รายใหญ่ ทะยานขึ้น 15.3% หลังเปิดเผยส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 และมีอัตราการชนะที่แข็งแกร่งกว่าคาดในตลาดสหรัฐ
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 2.9% โดยหุ้นชิปของยุโรปปรับตัวขึ้น หลังบริษัททีเอสเอ็มซีซึ่งเป็นบริษัทชิปของไต้หวันเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า หลังปรับตัวรับการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่เป้าหมาย แต่ก็ยังมีความเสี่ยง จึงจำเป็นจะต้องคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไป