Investing.com - Intel Corporation (NASDAQ:INTC) อาจสร้างผลกำไรในระยะสั้นได้หากถอนตัวจากธุรกิจโรงงานผลิตชิป (foundry) แต่ตอนนี้บริษัทกำลังเผชิญความเสี่ยงต่อมูลค่าในระยะยาวจากการลาออกของ CEO Pat Gelsinger นักวิเคราะห์จาก Citi กล่าวในหมายเหตุ
นักวิเคราะห์ของ Citi ระบุว่าการหยุดความพยายามในการเป็นผู้ให้บริการโรงงานผลิตชิปเชิงพาณิชย์ และขายธุรกิจส่วนนี้ออกไป “จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นของ Intel” โดยพวกเขามองว่าโอกาสที่จะเกิดสถานการณ์ยังนี้เพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจาก Gelsinger นั้นเป็นผู้สนับสนุนหลักของหน่วยธุรกิจโรงงานที่กำลังประสบปัญหา
อย่างไรก็ตาม Citi ยังระบุว่า Gelsinger มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการผลิตโดยรวมของ Intel และบริษัทอาจเผชิญ "กับปัญหาในระยะยาว" หาก CEO คนใหม่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเทียบเท่าเขา
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Intel ประกาศว่า CEO Gelsinger จะลาออก และจะถูกแทนที่โดย David Zinsner และ Michelle Holthaus ในตำแหน่งรักษาการ CEO ร่วม ทำให้หุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปรายนี้ ซึ่งมีมูลค่าตลาดลดลงถึงครึ่งหนึ่งในปี 2024 ขยับลงเล็กน้อยหลังจากการประกาศดังกล่าว
Intel ล้าหลังคู่แข่งอย่าง TSMC (NYSE:TSM) และ NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ในการผลิตชิปเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยข้อบกพร่องของบริษัทยังชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบริษัทแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้นจาก AI เลย
การลาออกของ Gelsinger เกิดขึ้นหลังจากที่เขาดำรงตำแหน่งไม่ถึงสี่ปี เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทหมดความเชื่อมั่นในแผนการฟื้นฟูของเขา
Gelsinger เพิ่งนำเสนอแผนการแยกตัวธุรกิจโรงงานผลิตชิป ซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แต่เงินอุดหนุนจากรัฐบาลจำนวน 7.86 พันล้านดอลลาร์ที่บริษัทเพิ่งได้รับมานั้นกลับมีเงื่อนไขว่า Intel จะสามารถขายหุ้นในธุรกิจโรงงานได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
นักวิเคราะห์จาก Citi ระบุว่า Intel มีโอกาสน้อยที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจโรงงานผลิตชิป และอัตรากำไรขั้นต้น (gross margins) อาจปรับตัวดีขึ้นอย่างมากหากขายหน่วยธุรกิจนี้ออกไป
Citi ยังคงอันดับ Neutral ให้กับหุ้น Intel พร้อมตั้งเป้าราคาที่ 22.0 ดอลลาร์