Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

บิตคอยน์ดีดเหนือ $47,000 ไม่มี Sell on Fact หลัง Spot Bitcoin ETF มาตามนัด

เผยแพร่ 12/01/2567 02:13
© Reuters.  บิตคอยน์ดีดเหนือ $47,000 ไม่มี Sell on Fact หลัง Spot Bitcoin ETF มาตามนัด
BTC/USD
-
BMC
-
BITO
-
BTF
-

InfoQuest - บิตคอยน์ดีดตัวทะลุระดับ 47,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,650,000 บาท โดยได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ให้การอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ตามที่มีการคาดการณ์ไว้

ณ เวลา 19.07 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 2.02% สู่ระดับ 47,118.75 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase (NASDAQ:COIN)

ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายวิตกว่าบิตคอยน์จะปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายหลังรับรู้ข่าว หรือ Sell on Fact ทันทีที่ SEC ให้การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF

อย่างไรก็ดี นายคริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทเปปเปอร์สโตน กรุ๊ป กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์ Sell on Fact ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่า บิตคอยน์จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 51,000 ดอลลาร์ ก่อนที่จะปรับตัวลงจากการที่นักลงทุนเข้าทำกำไร

SEC ได้อนุมัติให้บริษัท 11 แห่งสามารถทำการซื้อขายกองทุน Spot Bitcoin ETF ตั้งแต่วันนี้ โดยกองทุนทั้ง 11 แห่งได้แก่ Grayscale Bitcoin Trust GBTC, Bitwise Bitcoin ETF, Hashdex Bitcoin ETF, Blackrock’s iShares Bitcoin Trust, Valkyrie Bitcoin Fund, ARK 21Shares Bitcoin ETF, Invesco Galaxy Bitcoin ETF, VanEck Bitcoin Trust, WisdomTree Bitcoin Fund, Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund และ Franklin Bitcoin ETF

การที่ SEC ให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF จะทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงบิตคอยน์ได้โดยไม่ต้องถือครองโดยตรง และจะสร้างความสนใจต่อนักลงทุนสถาบัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้หลีกเลี่ยงการลงทุนในบิตคอยน์ เนื่องจากกังวลว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ขาดการควบคุมด้านกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแล

นายทอม ลี นักวิเคราะห์จากบริษัท Fundstrat กล่าวว่า บิตคอยน์จะพุ่งแตะระดับ 100,000-150,000 ดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า หาก SEC ให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF ซึ่งจะดึงดูดคำสั่งซื้อจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาด

นอกจากนี้ นายลีคาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี บิตคอยน์จะแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์

ส่วนธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ออกรายงานคาดการณ์ว่า บิตคอยน์จะพุ่งแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568 และเม็ดเงินราว 50,000-100,000 ล้านดอลลาร์จะไหลเข้าสู่บิตคอยน์ในปีนี้ หากมีการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ซึ่งจะดึงดูดให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี

หากคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง บิตคอยน์จะทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ที่ระดับ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย