InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.66 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.68 บาท/ดอลลาร์ ช่วงเย็น เงินบาทปรับตัวแข็งค่าสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50 - 34.68 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะมีผลต่อค่าเงินมากนัก ตลาดรอดูคืนนี้ที่สหรัฐฯ จะรายงานจำนวนผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2565 รวมทั้งดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะนำไปใช้ประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อ นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50 - 34.80 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.84 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 134.75 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0592 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0618 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,652.47 จุด ลดลง 7.01 จุด (-0.42%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 56,102 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,904.35 ลบ. (SET+MAI) - รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนม.ค. 66 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว มีมติอนุญาตให้คนต่างชาติ เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 52 ราย โดยเป็นการ ลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 22 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 30 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,129 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 298 คน - ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กยืนยันว่า เฟดมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้า หมายที่ระดับ 2% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยการทำให้อุปสงค์ชะลอตัวลงอย่างสอดคล้องกับอุปทาน - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดียและรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ร่วมหารือเกี่ยวกับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธนาคาร เพื่อการพัฒนาในระดับพหุภาคี (MDB) ความเปราะบางของปัญหาหนี้สินทั่วโลก และสินทรัพย์คริปโทฯ นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีคลังของ กลุ่ม G20 ในวันนี้ (23 ก.พ.) - ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 66 ลงสู่ระดับ 1.6% จากเดิมที่ ระดับ 1.7% และได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในปี 66 ลงสู่ระดับ 3.5% จากเดิมที่ระดับ 3.6%