รับข้อมูลพรีเมียมสำหรับมหกรรมลดราคา Cyber Monday: ลดสูงสุด 55% InvestingProรับส่วนลด

3 สิ่งที่ต้องจับตา: กนง. ผ่อนคลายดอกเบี้ย เน้นลงทุนหุ้นระยะสั้น

เผยแพร่ 05/08/2564 14:57
อัพเดท 05/08/2564 15:00
SETI
-
ADVANC
-
CPF
-
EASTW
-
GFPT
-
JAS
-
PSL
-
RATCH
-
RCL
-
TVO
-
TTA
-
DTAC
-
TTW
-
ALT
-
TU
-
TWPC
-
BIZ
-
WHARTu
-
TMm
-
WHAUP
-
BGC
-
FTREITu
-
SCGP
-
WINMEDm
-
SMD100m
-

โดย วณิชชา สุมานัส

Investing.com – ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผย 4 เดือนแรกของปี 2564 นักลงทุนบุคคลรายใหม่ที่เริ่มซื้อขายหุ้นเป็นครั้งแรกมีจำนวนสูงถึง 1.51 แสนคน เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากทั้งปีก่อน โดยมีสัดส่วนซื้อขายคิดเป็น 20% ของผู้ลงทุนบุคคลทั้งหมดในปีนี้ ซึ่งนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุน 1 ใน 3 เริ่มจากจองซื้อ IPO

ขณะที่ ช่วงนี้ เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 16 เดือนที่ 33.12บาทต่อดอลลาร์และอ่อนค่าสุดในเอเชียที่ 9.6% ตั้งแต่ต้นปี โดย ศูนย์วิจัยกสิรไทย มองบาทอ่อนต่อในเดือนสิงหาคม โดยจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.90-33.20 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนการประชุม กนง.รอบหน้า คาดเสียงโหวตลดดอกเบี้ยมากขึ้น หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

สำหรับทองคำในประเทศ สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทอง ประจำวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม 2564 ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.25 น. ราคาปรับลง 50 บาท จากราคาวานนี้ ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 28,250.00 บาท ขายออกบาทละ 28,350.00 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 27,742.80 บาท ขายออกบาทละ 28,850.00 บาท

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในวันนี้ ยังจะต้องให้น้ำหนักกับประเด็นการระบาดโควิด และการรับมือของรัฐ ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ก็ยังจะมีผลต่อตลาดในช่วงนี้

3 ปัจจัยที่ควรจับตาและคำแนะนำในการลงทุนวันนี้ ได้แก่

1. ผลประกอบการหนุนตลาด

บล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ ชี้ ผลประกอบการยังเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจโลก ขณะที่ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคมมีโอกาสผันผวนจากหลายปัจจัย โดยภาพรวมหุ้นยุโรปยังได้แรงส่งจากผลประกอบการ ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลงหลังตัวเลขการจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาด และจากการแสดงความเห็นของรองประธานเฟด ริชาร์ด แคลริดา ที่มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะบรรลุการจ้างงานตามเป้าหมายในปี 2565 และน่าจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566 ขณะที่การเริ่มลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้

ส่วนในระยะสั้น คาดว่าตลาดจะยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการ แต่จะเพิ่มความระวังมากขึ้นต่อการดำเนินนโยบายของเฟดและการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ รอบต่อไป 21-22 กันยายนปีนี้

2. กนง. ผ่อนคลายดอกเบี้ย

เป็นที่ชัดเจนว่า กนง. ได้มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% และปรับลดประมาณการ GDP ปี 2564 ลงเหลือ 0.7% จากเดิม 1.8% และปี 2565 ลงเล็กน้อยจาก 3.9% เหลือ 3.7% โดยปรับประมาณการเกี่ยวกับสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างประเทศลง (ปี 2564 ที่ 1.5 แสนราย vs เดิม 7 แสนราย / ปี 2565 ที่ 6 ล้านราย vs เดิม 10 ล้านราย)

นอกจากนี้ ความกังวลยังอยู่ที่ผลกระทบของสถาณการณ์ระบาดของโควิด โดยเฉพาะหากมีการลุกลามไปยังภาคการผลิต ซึ่งจะกระทบไปยังภาคส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจเดียวที่ยังทำงานได้ดีอยู่

อย่างไรก็ตาม ผลการลงมติด้วยคะแนนเสียง 4:2 แสดงถึงความเป็นไปได้ของการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเรามองเป็นการส่งสัญญาณบวกถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

3. ลงทุนหุ้นระยะสั้น

โบกเกอร์ ชี้ นักลงทุนยังคงต้องระวังในการลงทุนระยะกลาง ขณะที่การลงทุนระยะสั้นคาดว่าจะฟื้นตัวทดสอบ 1,550-1,565 จุด จากการประเมินหุ้นไทยและหุ้นในตลาดโลกที่กำลังตึงตัว รวมถึงความผันผวนในช่วงรอยต่อของการนดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งต้องระมัดระวังต่อความผันผวนในช่วงไตรมาส 3 ปีงบ 2564 อย่างไรก็ตาม การที่หุ้นขนาดใหญ่จำนวนมากปรับลดลง 20-30% ทำให้อยู่ในจุดที่เป็นเป้าหมายการเสี่ยงซื้อ หรือมีโอกาสฟื้นตัว โดยประเมินเป้าหมายที่ 1,550-1,565 จุด
ในส่วนของ การลงทุนระยะสั้น กลุ่มสื่อสารและ REITs ยังเป็นแหล่งพักเงินที่ดี ในช่วงที่ตลาดกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงการปรับประมาณการผลประกอบการที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่
1. หุ้นกลุ่มสื่อสารทยอยสะสม ได้แก่ ADVANC, DTACFTREIT และ WHARTu
2. หุ้นน่าเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน ได้แก่ JAS และ ALT
3. หุ้นกลุ่มทยอยสะสมสาธารณูปโภค RATCH, EASTWWHAUP และ TTW
4. หุ้นกลุ่มอาหารและเกษตร ได้แก่ TVO, TU, CPFGFPT และ TWPC
5. หุ้นเก็งกำไร กลุ่มเดินเรือ PSL, TTA และ RCL
6. หุ้นกลุ่มเก็งกำไรกลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ SMD, TMWINMED และ BIZm
7. หุ้นกลุ่มเก็งกำไรกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCGP และ BGC

ส่วนหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แม้แนวโน้มผลประกอบการดี แต่เพิ่มความระวังความผันผวนและจากความเสี่ยงการผลิตอาจกระทบหากมีพนักงานติดโควิด

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย