Investing.com - ผลประกอบการของบริษัทจะเป็นจุดสนใจในวันนี้ โดยเฉพาะตัวเลขจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Tesla และ Alphabet ขณะที่ Wiz ก็รายงานว่าได้ปฏิเสธข้อตกลงกับ Google ด้านรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ก็ดูเหมือนจะพร้อมสำหรับการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว
1. แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนจากพรรคเดโมแครต
รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ดูเหมือนจะอยู่ในตำแหน่งที่จะได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครตเพื่อลงสมัครแข่งขันกับผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน
การสำรวจของ AP ระบุว่า แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนจากผู้แทนอย่างน้อย 2,214 คน ทำให้เธอมีการสนับสนุนเพียงพอที่จะชนะการเสนอชื่อ
แฮร์ริสได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน หลังจากที่เขากล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่เธอยังคงต้องได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการเป็นผู้สมัครของพรรค ซึ่งอาจจะต้องผ่านการลงคะแนนในระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตในเดือนสิงหาคมหรือหากพรรคตัดสินใจจัดการลงคะแนนเสียงเสมือนจริงก่อนการประชุม
แฮร์ริสจะต้องหยุดงานที่เธอกำลังทำหากได้รับการเสนอชื่อ เนื่องจากการสำรวจของ HarrisX/Forbes แสดงให้เห็นว่าทรัมป์มีคะแนนนำในเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 หลังจากที่เขาได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการในระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
การสำรวจระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคมแสดงให้เห็นว่าทรัมป์นำหน้าไบเดนและแฮร์ริสอยู่ถึงหกเปอร์เซ็นต์ที่ 54% ต่อ 47% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจก่อนหน้าในวันที่ 13-15 กรกฎาคมที่สองเปอร์เซ็นต์
ซึ่งตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการถอนตัวของประธานาธิบดี โจ ไบเดน และการสนับสนุนรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริสจะส่งผลต่อแนวโน้มการเลือกตั้งอย่างไร เนื่องจากการสำรวจนั้นเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์เหล่านี้
2. หุ้นฟิวเจอร์สลดลง จับตาผลประกอบการหุ้นเทคฯ
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ปรับลดลงในวันนี้ ก่อนการเปิดเผยผลประกอบการที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่บางบริษัท
เมื่อเวลา 04:20 ET (08:20 GMT) ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับลง 40 จุด หรือ 0.1% S&P 500 ฟิวเจอร์ส ปรับลง 12 จุด หรือ 0.2% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ลดลง 85 จุด หรือ 0.4%
ดัชนีหลักนั้นมีการเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ โดย ดาวโ๗นส์ เพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.1% และ Nasdaq คอมพสิต ที่เน้นไปทางหุ้นเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1.6%
ผลประกอบการของบริษัทก็จะเป็นจุดสนใจของตลาดในวันนี้ [ดูด้านล่าง] โดยมีผลประกอบการจาก Tesla (NASDAQ:TSLA) และ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) เป็นประเด็นสำคัญหลังตลาดปิด
แม้จะมีกำไรในวันจันทร์ แต่ภาคเทคโนโลยีของ S&P 500 ก็ยังคงลดลงเกือบ 4% ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์เนื่องจากการคาดการณ์ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยและโอกาสการได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งที่สองนั้น ได้ทำให้เงินหมุนเวียนออกจากหุ้นเทคฯ และเข้าสู่ภาคส่วนที่อ่อนไหวตอ่เศรษฐกิจมากกว่า
และยังมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ต้องจับตารวมถึง ยอดขายบ้านมือสอง สำหรับเดือนมิถุนายน และ ดัชนีการผลิตของริชมอนด์ สำหรับเดือนกรกฎาคม
3. จับตารายได้ Q2 ของ Tesla และ Alphabet
ฤดูกาลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสของบริษัทนั้นจะเข้าสู่ช่วงสำคัญในวันนี้ โดยจะมีการรายงานผลประกอบการจากบริษัทต่าง ๆ เช่น General Motors (NYSE:GM) Coca-Cola (NYSE:KO) Comcast (NASDAQ:CMCSA) United Parcel Service (NYSE:UPS) และ Spotify (NYSE:SPOT) ก่อนปิดตลาด
อย่างไรก็ตาม ความสนใจส่วนใหญ่นั้นจะโฟกัสไปที่ผลประกอบการจาก Tesla และ Alphabet ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่ม "Magnificent Seven" กลุ่มแรกที่รายงานผลประกอบการ
อัตรากำไรในไตรมาสสองของ Tesla มีแนวโน้มจะลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี เนื่องจากการให้ส่วนลดเพื่อเคลียร์สต็อก การลดราคา และการเสนอสิ่งจูงใจเช่นทางเลือกในการจัดหาเงินที่ถูกลงเพื่อเพิ่มยอดขายรถไฟฟ้า ขณะที่ยอดขายลดลงเนื่องจากลูกค้ารู้สึกเบื่อกับรถรุ่นเก่า ๆ ของบริษัท
นักลงทุนยังต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Tesla ในด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติและวิธีที่เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้บริษัทโดดเด่นจากผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ
Alphabet คาดว่าจะรายงานการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของตลาดโฆษณา
บริษัทแม่ของ Google กำลังมีผลงานที่น่าประทับใจในไตรมาสแรก โดยได้ประกาศเริ่มจ่ายเงินปันผลครั้งแรกและอนุมัติการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 70 พันล้านดอลลาร์
4. Wiz ปฏิเสธข้อตกลงกับ Google
บริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ Wiz ได้ยกเลิกข้อตกลงกับบริษัทแม่ของ Google อย่าง Alphabet โดยปฏิเสธข้อเสนอมูลค่า 23 พันล้านดอลลาร์ ตามบันทึกช่วยจำของ Wiz รายงานโดยรอยเตอร์ส
Assaf Rappaport ซึ่งเป็น CEO ของ Wiz กล่าวว่าบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ตามที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ และตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ประจำปีที่ 1 พันล้านดอลลาร์
“การปฏิเสธข้อเสนอเช่นนี้เป็นเรื่องยาก แต่ด้วยทีมงานที่ยอดเยี่ยมของเรา ผมรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจครั้งนี้” Rappaport กล่าวในบันทึก โดยอ้างถึงข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการ
รอยเตอร์สรายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า Alphabet กำลังเจรจาเพื่อซื้อ Wiz ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์บนคลาวด์เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ระบุและขจัดความเสี่ยงที่สำคัญบนแพลตฟอร์มคลาวด์ได้
การตัดสินใจของ Wiz ที่ยกเลิกข้อตกลงจะเป็นการก้าวถอยหลังสำหรับ Google ซึ่งได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์และพุ่งเป้าไปที่การดึงดูดลูกค้า
5. ราคาน้ำมันดิบต่ำสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน
ราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัว ใกล้ระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน เนื่องจากการคาดการณ์อุปทานเกินดุลและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอุปสงค์ยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น
เมื่อเวลา 04:20 ET น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.2% มาเป็น 78.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 0.2% มาเป็น 82.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้กดดันตลาดรวมถึงการคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันดิบจะเคลื่อนเข้าสู่ภาวะเกินดุลในปีหน้า
นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ได้เตือนในบันทึกประจำสัปดาห์นี้ว่าตลาดน้ำมันมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเป็นภาวะเกินดุลภายในปี 2025 เนื่องจากความต้องการตามฤดูกาลที่ลดลงและการเพิ่มขึ้นของการผลิตทั่วโลกก็คาดว่าจะทำให้เกิดภาวะเกินดุลเช่นกัน
API ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าจะเปิดเผยประมาณการของสินค้าคงคลังน้ำมันของสัปดาห์ที่แล้วในช่วงท้ายเซสชั่น โดยข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการนั้นจะประกาศในวันพุธ
น้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ มีการลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากฤดูการขับขี่ในช่วงฤดูร้อนได้ผลักดันความต้องการภายในประเทศ
ตลาดน้ำมันยังคงจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส หลังจากที่อิสราเอลส่งสัญญาณว่าการถึงเจรจาหยุดยิงอีกครั้งในสัปดาห์นี้
