Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.90 แนวโน้มอ่อนค่า เกาะติดสถานการณ์ตึงเครียดในตอ.กลาง

เผยแพร่ 22/04/2567 16:33
© Reuters.  ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.90 แนวโน้มอ่อนค่า เกาะติดสถานการณ์ตึงเครียดในตอ.กลาง
USD/THB
-

InfoQuest - นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 36.90 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 36.86 บาท/ดอลลาร์ สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินผันผวนหนักและอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดและ ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ส่วนสัปดาห์นี้ ประเมินว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา นอกจากนี้ ควรรอลุ้นรายงาน อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ (PCE) รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ ของสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่ายังมีอยู่ โดยต้องจับตาทิศทางเงินดอลลาร์ และแรงขายสินทรัพย์ไทยจาก นักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ โฟลว์จ่ายปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ (ราว 1.6 หมื่นล้านบาท) สามารถกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง ได้ ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ และราคาพลังงาน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่พร้อมจะกลับ มาร้อนแรงขึ้นได้ทุกเมื่อ นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 36.80-37.00 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 154.60 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 154.50/54 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0667 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0661/0665 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 36.869 บาท/ดอลลาร์ - โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้ยกร่างกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติ เพื่อป้องกันการถ่ายโอน กำไรไปยังบริษัทในเครือที่อยู่ในประเทศที่มีฐานภาษีต่ำกว่าแล้ว โดยร่างกฎหมายดังกล่าวเรียกว่า ร่าง พ.ร.บ.ภาษีส่วนเพิ่ม ซึ่งสอดคล้อง กับมติขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) และจี 20 ที่เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีสมาชิก 140 ประเทศ และไทยเป็นสมาชิกในนั้นด้วย - เอกชนโอดขึ้นดีเซล ทำต้นทุนพุ่งทุกอย่าง ทั้งน้ำมันพ่วงปลายปีค่าแรง 400 บาทอีก แบกต้นทุนอ่วม ชี้ส่วนใหญ่ยังกัดฟันตรึง ราคาสินค้าต่อเหตุกำลังซื้อประชาชนทรุด ลั่น ถ้ารับไม่ไหวลดการผลิตลง จี้ รัฐบาลรณรงค์ช่วยกันประหยัดพลังงาน ด้านนักวิชาการมอง เพดานดีเซล ไม่ควรทะลุ 32 บาทต่อลิตร แนะ ทยอยปรับอย่าพรวดเดียว ไม่เช่นนั้นรัฐบาลไปไม่รอดแน่ ย้ำ ทุก 50 สตางค์ที่ปรับขึ้น ดูด เงินออกจากกระเป๋าคนไทย 1 พันล้านบาท แถมทำกำลังซื้ออ่อนแอ วอนรัฐเร่งอัดฉีดเงินเข้าระบบ ขณะที่ "พีระพันธุ์" เผย เร่งร่าง กฎหมาย-รื้อโครงสร้างพลังงานด้วยตัวเอง หวังให้รัฐบาลคุมราคาเอง หลังผ่านมา 51 ปีไม่เคยมีใครคิดปรับปรุง-แก้ไข ลั่น ต่อไปผู้ค้า ต้องแจ้งต้นทุน โว เสร็จทันรัฐบาลนี้ชัวร์ - ตลท.ชี้หุ้นไทยร่วงตามภูมิภาคหวั่นตะวันออกกลางตึงเครียด ฟันด์โฟลว์ไหลหาผลตอบแทนสูง เดินหน้าผนึกองค์กรเอกชนปั้น พื้นฐานกำไร ด้านสมาคมนักวิเคราะห์ มองระยะกลางหุ้นน่าเก็บ แนะกระจายพอร์ต โบรกคาดสงครามไม่ขยายวง แต่ยืดเยื้อ แนะถือเงิน สดรอ พร้อมประเมินหุ้นไทยบนสถานการณ์นี้ไม่หลุด 1,300 จุด ถ้าจบไวกลับ 1,400 จุด แต่หากลุกลามเหลือ 1,210 จุด - ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันนี้ (22 เม. ย.) หลังจากที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ผ่านมา PBOC พยายามหลีกเลี่ยงการอัดฉีดเงินสดหมุนเวียนใน ระบบการเงินมากเกินไปโดยที่เงินสดนั้นไม่ได้ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีน และยังสะท้อนให้เห็นว่า PBOC ยังคงมีความระมัด ระวังที่จะใช้นโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีความตั้งใจที่จะพยุงค่าเงินหยวน - กระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า มูลค่าการลงทุนของต่างชาติในจีนหดตัวลง 26.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรก ของปีนี้ สู่ระดับ 3.017 แสนล้านหยวน (4.17 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าจีนยังไม่ประสบความสำเร็จในการ ดึงดูดบริษัททั่วโลก - ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวเมื่อวันศุกร์ (19 เม.ย.) ว่า BOJ มีแนวโน้มอย่างมากที่จะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยอีก หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเพิ่มขึ้น โดยเน้นย้ำว่าการตัดสินใจในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเงินเฟ้อ - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (19 เม.ย.) ขณะที่ฟรังก์สวิสและเยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยได้ลดช่วงบวกลง หลังอิหร่านส่งสัญญาณว่า ไม่มีแผนการที่จะตอบโต้อิสราเอลแต่อย่างใด หลังจากที่สื่อรายงานว่า อิสราเอลได้ทำการโจมตีอิหร่านในวงจำกัด - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (19 เม.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน เนื่องจากความวิตก เกี่ยวกับการโจมตีตอบโต้ระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 15.80 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 2,413.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 1.97% - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในรายงานเสถียรภาพด้านการเงินรายครึ่งปีว่า บรรดานักลงทุน และผู้สังเกตการณ์ใน ตลาดการเงินมองว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินคาด ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงนั้น ถือเป็นความเสี่ยงมากที่สุดต่อเสถียรภาพ ด้านการเงิน - ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2567 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดขาย บ้านใหม่เดือนมี.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการ บริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย