รัฐบาลสหราชอาณาจักรตั้งเป้าไปที่การเติบโตด้วยการปฏิรูประบบการวางแผน

รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนําของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Keir Starmer ประกาศเมื่อวันพุธถึงการยกเครื่องระบบการวางแผนครั้งสําคัญที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงที่เสนอมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญและให้อํานาจแก่ผู้นําท้องถิ่นมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมได้มุ่งมั่นที่จะอํานวยความสะดวกในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ร่างกฎหมายการวางแผนและโครงสร้างพื้นฐานที่เสนอโดยรัฐบาลคาดว่าจะเร่งการอัพเกรดโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติและลดความซับซ้อนของกระบวนการสําหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่สําคัญ

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังพยายามปฏิรูปกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการชดเชยการซื้อภาคบังคับเพื่อป้องกันสิ่งที่รัฐบาลเห็นว่าการจ่ายเงิน "มากเกินไป" และวางแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานวางแผนท้องถิ่น

กษัตริย์ชาร์ลส์เน้นย้ําถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่จะจัดลําดับความสําคัญของการปฏิรูปอาคารและการวางแผนเพื่อเร่งการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานและที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง กฎหมายใหม่จะกําหนดว่าความยินยอมในท้องถิ่นจะมีอิทธิพลต่อวิธีการสร้างโครงการใหม่มากกว่าการกําหนดการอนุมัติ

เพื่อส่งเสริมวาระของรัฐบาลมีการเสนอกรอบใหม่สําหรับการกระจายอํานาจในอังกฤษโดยมีเป้าหมายเพื่อถ่ายโอนอํานาจมากขึ้นไปยังนายกเทศมนตรีและหน่วยงานท้องถิ่นที่รวมกัน กรอบการทํางานนี้จะครอบคลุมการวางแผน เครือข่ายการขนส่ง และการสร้างงาน โดยมีกระบวนการเร่งด่วนสําหรับภูมิภาคต่างๆ ในการนําอํานาจที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้มาใช้

การผลักดันทางกฎหมายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของรัฐบาลที่ว่าการกระจายอํานาจการตัดสินใจที่มากขึ้นเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมเศรษฐกิจที่ทันสมัยและมีพลวัต และเป็นกลไกสําคัญสําหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ กฎหมายที่เสนอมีกําหนดขึ้นเพื่อให้ผู้นําท้องถิ่นสามารถสนับสนุนแผนการเติบโตที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ชุมชน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน