ที่ปรึกษาทรัมป์มีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ยุโรปในการประชุมสุดยอดนาโต

ในระหว่างการประชุมสุดยอด NATO ที่กําลังดําเนินอยู่ในกรุงวอชิงตัน Keith Kellogg ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศคนสําคัญของ Donald Trump ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรป เคลล็อกก์ พลโทที่เกษียณอายุแล้ว ซึ่งเคยดํารงตําแหน่งเสนาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ได้เจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศหลายคนตลอดทั้งสัปดาห์ แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะของการหารือเหล่านี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้นํายุโรปกําลังมองหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางนโยบายต่างประเทศที่เป็นไปได้ของทรัมป์หากเขาชนะประธานาธิบดีโจไบเดนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

ความสนใจจากเจ้าหน้าที่ยุโรปในนโยบายต่างประเทศของทรัมป์ได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามในยูเครนและบทบาทในอนาคตของสหรัฐอเมริกาในนาโต ทรัมป์และพันธมิตรของเขาวิพากษ์วิจารณ์ความช่วยเหลือในปัจจุบันที่มอบให้กับยูเครน และได้เรียกร้องให้ประเทศนาโตเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม ท่าทีของอดีตประธานาธิบดีทําให้นักการทูตต่างชาติให้ความสนใจมากขึ้น ซึ่งมีส่วนร่วมกับสมาชิกในคณะบริหารชุดก่อนของทรัมป์เป็นประจํา

เคลล็อกก์ซึ่งติดต่อกับทรัมป์เป็นประจํา แต่ยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นตัวแทนของเขาหรือแคมเปญของเขาอย่างเป็นทางการ ก็แชร์ภาพบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์เช่นกัน ภาพถ่ายดังกล่าวแสดงให้เห็น "การหารืออย่างไม่เป็นทางการ" กับรุสลัน สเตฟานชุก ประธานรัฐสภายูเครน ซึ่งบ่งชี้ถึงปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องระหว่างแวดวงของทรัมป์กับผู้นํายุโรป

นอกจากการมีส่วนร่วมของ Kellogg แล้ว มีรายงานว่าอดีตเจ้าหน้าที่นโยบายต่างประเทศของทรัมป์คนอื่นๆ ถูกคณะผู้แทนยุโรปขอตัวเพื่อเข้าร่วมการประชุมระหว่างการประชุมสุดยอด อย่างไรก็ตาม การประชุมเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้น เนื่องจากปัญหาด้านลอจิสติกส์เป็นหลัก และเจ้าหน้าที่ได้เลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตนในขณะที่หารือเรื่องส่วนตัวเหล่านี้

ในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องนายกรัฐมนตรีมาซิโดเนียเหนือ Hristijan Mickoski ได้พบกับ Richard Grenell ซึ่งดํารงตําแหน่งอดีตรักษาการผู้อํานวยการข่าวกรองแห่งชาติภายใต้ทรัมป์ Mickoski บันทึกการเผชิญหน้าครั้งนี้ด้วยภาพถ่ายที่โพสต์บน Facebook เมื่อวันจันทร์

การประชุมที่วุ่นวายนี้ส่งสัญญาณถึงความสนใจอย่างมากจากเจ้าหน้าที่ยุโรปในการทําความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ เนื่องจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีใกล้เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของประสิทธิภาพการโต้วาทีล่าสุดของไบเดนที่ดูเหมือนจะปรับปรุงสถานะของทรัมป์ในการสํารวจความคิดเห็นระดับชาติ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน