Investing.com - ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนมีดังต่อไปนี้
1. สหรัฐฯ จะเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรจีนหรือไม่
รายงานจาก Financial Times และ Wall Street Journal ระบุว่า สหรัฐฯ อาจปรับลดภาษีศุลกากรบางรายการสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนที่มีผลบังคับใช้ภายในระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นสัญญาณแสดงความต้องการสงบศึกต่อสงครามทางการค้ากับจีน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมพุ่งขึ้นต่อไปในแดนบวก ด้วยแรงหนุนจากคำกล่าวของนายสี จิ้นผิง และรายงานที่เผยว่าสหรัฐฯ อาจปรับลดการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจีน
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1100 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ขยับขึ้น 61 จุดหรือราว 0.2% ส่วน สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ต่างก็ปรับขึ้นเช่นเดียวกัน
บรรดาบริษัทที่จะรายงานผลประกอบการในวันนี้ประกอบไปด้วยบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ Becton Dickinson, Allergan, บริษัททำธุรกิจเหมืองแร่ทองคำ Newmont Goldcorp, บริษัทเจ้าของแอพ Tinder Match Group, Regeneron Pharma และบริษัทผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม Arconic
3. Uber ยังคงทรุดหนัก
Uber (NYSE:UBER) ได้รายงานผลประกอบการที่ขาดทุนในระดับการดำเนินงานพื้นฐานอีกครั้งและทำให้เกิดความกังขาต่อประสิทธิภาพในการทำกำไรของบริษัท โดยล่าสุดบริษัท Uber ขาดทุน 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐก่อนหักอัตราดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย ซึ่งถือว่าแทบไม่ต่างกับการขาดทุน 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อไตรมาสที่สอง (ไม่รวมต้นทุนที่ไม่ใช่เงินสดอีก 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก IPO ของบริษัทเอง)
ซีอีโอของบริษัท Dara Khoshroshahi กล่าวว่า บริษัทมุ่งหวังที่จะสามารถทำกำไรได้ในระดับ EBITDA ในปี 2021 แต่ผู้ลงทุนกลับไม่เชื่อในคำมั่นสัญญาดังกล่าวและเทขายหุ้นจนดิ่งลงไปถึง 5.5% ในช่วงเวลาหลังตลาดปิด
4. รายงานดุลการค้าสหรัฐฯ, ตัวเลขตลาดแรงงาน JOLTS และผลสำรวจภาคกิจการบริการสหรัฐฯ
ปฏิทินเศรษฐกิจในวันนี้ค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีการรายงานตัวเลขจากผลสำรวจนอกภาคการผลิตหลากหลายรายการ โดย ดุลการค้าสหรัฐฯ ประจำเดือนกันยายนจะมีกำหนดการรายงานในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1330 GMT) ตามมาด้วย รายงาน Redbook ของเฟดในเวลา 8:55 น.
หลังจากนั้นก็จะมีการรายงาน ผลสำรวจภาคกิจการบริการ จาก IHS Markit และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อแบบรวม ประจำเดือนตุลาคมในเวลา 9:45 น. และอีก 15 นาทีต่อมาก็จะมีการรายงานผลสำรวจ นอกภาคการผลิต จากสถาบันการจัดการอุปทานสหรัฐฯ (ISM) ด้วย
และจะมีการให้คำกล่าวของประธานเฟดจากริชมอนด์ นายโธมัส บาร์คิน ในเวลา 8.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก กับประธานเฟดจากดัลลัส นายโรเบิร์ต แคปแลน ในเวลา 12:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
5. กลุ่ม OPEC ลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในระยะยาว
OPEC ได้ลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในระยะยาวเหลืออัตรา 104.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2024 และ 110.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2040
ในรายงาน World Oil Outlook ประจำปีของกลุ่มโอเปกระบุว่า อุปสงค์น้ำมันจะชะลอตัวลง 500,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อถึงสิ้นปี 2020 ซึ่งถือว่าลดลงไปหนึ่งในสามของปีที่แล้วที่คาดไว้ว่า 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
หลังจากรายงานดังกล่าว สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้น 0.8% สู่ระดับสูงสุดในรอบหกสัปดาห์ ซึ่งตลาดน้ำมันจะได้ทดสอบระดับราคาครั้งต่อไปในเวลา 16:30 น. เมื่อ สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) ออกมารายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์