สตีเฟนส์ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน FNB Corporation (นิวยอร์ก: FNB) เป็น 18 ดอลลาร์จาก 16 ดอลลาร์ ในขณะที่ยังคงให้คะแนนหุ้นเพิ่มน้ำหนักการลงทุน การปรับดังกล่าวเป็นไปตามกําไรจากการดําเนินงานต่อหุ้น (EPS) ของ FNB Corporation ที่ 0.34 ดอลลาร์ ซึ่งต่ํากว่าประมาณการที่เป็นเอกฉันท์ที่ 0.35 ดอลลาร์
นอกจากนี้ รายได้สุทธิก่อนการตั้งสํารอง (PPNR) หลักของบริษัทที่ 181.8 ล้านดอลลาร์ต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้ของ Street 1.5% หรือ 0.01 ดอลลาร์ โดยคาดว่าคําแนะนําในไตรมาสที่สี่จะต่ํากว่าฉันทามติ 3.5%
การป้องกันอัตรากําไรสุทธิ (NIM) ของบริษัทได้รับการตั้งข้อสังเกตว่าดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยลดลงเพียงจุดพื้นฐานเพียงหนึ่งจุดและคําแนะนําลดลงเล็กน้อยสําหรับไตรมาสที่สี่ ซึ่งช่วยป้องกันการแก้ไขเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมีคําแนะนําที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสต่อไตรมาส แต่ก็ส่งผลเสียต่อประมาณการ สตีเฟนส์ยังชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าจะมีแนวทางที่อ่อนนุ่มสําหรับความคิดริเริ่มในการประหยัดต้นทุนที่อาจให้ข้อดี แต่พวกเขาได้ลดประมาณการ EPS สําหรับปี 2025 และ 2026 ลง 5 เซนต์เป็น 1.35 ดอลลาร์และ 1.70 ดอลลาร์ตามลําดับ โดย PPNR ที่เกี่ยวข้องลดลง 2% ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่าย
แม้จะมีการประมาณการที่ลดลง ซึ่งต่ํากว่าการคาดการณ์ของ Street เช่นกัน แต่ Stephens ยังคงมีแนวโน้มเชิงบวกสําหรับ FNB Corporation ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และในปี 2026 บริษัทคาดว่าบริษัทจะแสดงผลตอบแทนที่น่าสนใจด้วยผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) มากกว่า 1.20% การเติบโตของ PPNR มากกว่า 1.80% และผลตอบแทนจากหุ้นสามัญที่จับต้องได้ (ROTCE) มากกว่า 15%
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ FNB Corporation รายงานรายได้สุทธิจากการดําเนินงาน 122 ล้านดอลลาร์สําหรับไตรมาสที่สามของปี 2024 ธนาคารแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงโดยสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 4.6% เป็น 33.7 พันล้านดอลลาร์ และเงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 5.1% เป็น 36.8 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีรายงานรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเป็นประวัติการณ์ที่ 90 ล้านดอลลาร์ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้ต่อเงินฝากดีขึ้นเป็น 91.7%
เมื่อเผชิญกับการพัฒนาล่าสุดเหล่านี้ FNB Corporation คาดว่าสินเชื่อและเงินฝากจะเติบโตในระดับหลักเดียวสําหรับปี 2024 บริษัทคาดการณ์รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยระหว่าง 310 ล้านถึง 320 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สี่ โดยคาดว่าค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะลดลงเหลือระหว่าง 225 ล้านถึง 235 ล้านดอลลาร์
ในระหว่างการเรียกผลประกอบการฝ่ายบริหารได้แสดงความเปิดกว้างต่อการควบรวมกิจการโดยมุ่งเน้นไปที่ข้อตกลงที่เล็กกว่าและเพิ่มทุน พวกเขายังคาดการณ์ว่าความต้องการสินเชื่อเชิงพาณิชย์จะเพิ่มขึ้นในปี 2025
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
เพื่อเสริมการวิเคราะห์ของ Stephens ข้อมูล InvestingPro ให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของ F.N.B. Corporation อัตราส่วน P/E ของบริษัทที่ 13.43 บ่งชี้ถึงการประเมินมูลค่าที่ค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อเทียบกับตลาดในวงกว้าง สิ่งนี้สอดคล้องกับมุมมองของ Stephens ที่ว่าหุ้นอาจมีมูลค่าต่ําเกินไป โดยซื้อขายที่ 8.5 เท่าของรายได้ประมาณการในปี 2026
เคล็ดลับของ InvestingPro เน้นย้ําว่า FNB ได้จ่ายเงินปันผลเป็นเวลา 50 ปีติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปัจจุบันที่ 3.28% ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้
แม้ว่า Stephens จะลดประมาณการ EPS ลง แต่เคล็ดลับ InvestingPro อีกฉบับหนึ่งบ่งชี้ว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะทํากําไรได้ในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับอัตรากําไรจากการดําเนินงานของบริษัทที่ 40.28% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถในการทํากําไรที่แข็งแกร่ง
สําหรับนักลงทุนที่ต้องการการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้น InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 6 ข้อสําหรับ F.N.B. Corporation เพื่อให้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน