Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

ธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงสิ้นปี 2022 

เผยแพร่ 06/06/2565 10:13
อัพเดท 06/06/2565 10:35
© Reuters.

Investing.com – ธนาคารกลางของประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่เหลือของปี เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่มีการเรียกร้องให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนหน้านี้ท่ามกลางความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ตามรายงานจากการสำรวจของรอยเตอร์ส

ด้วยราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 4.65% ในเดือนเมษายน และคาดว่าจะคงอยู่เหนือ 5% ในเดือนหน้า ซึ่งสูงกว่าช่วงเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ตั้งไว้ที่ 1% ถึง 3%

แม้จะมีแรงกดดันด้านราคา นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะรักษาระดับนโยบายเพื่อรองรับการเติบโตจนถึงสิ้นปี 2022

หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 ลดลงและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ผ่อนคลายมากขึ้น เศรษฐกิจของประเทศไทยขยายตัวได้ 1.1% ในไตรมาสของเดือนมีนาคม ที่ปรับฤดูกาลแล้วจากช่วง 3 เดือนก่อน ซึ่งดีกว่าตัวเลข  0.9% ที่รอยเตอร์สได้คาดการณ์ไว้ในโพลอีกฉบับหนึ่ง

แต่นโยบายปลอดโควิดของจีนและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ค่อยเดินทางเข้ามายังประเทศไทยยังคงเป็นความท้าทายต่อการฟื้นตัว

ในการสำรวจวันที่ 30 พฤษภาคม - 3 มิถุนายน นักเศรษฐศาสตร์ทั้ง 20 คนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนในหนึ่งวันไว้ที่ 0.50% ในการประชุมวันที่ 8 มิถุนายน และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในช่วงที่เหลือของปี

การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้

ในขณะที่ค่ามัธยฐานจากการสำรวจแสดงให้เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการสำรวจในเดือนเมษายน นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้จากธนาคารแห่งประเทศไทย

มากกว่าหนึ่งในสามหรือ 7 คนจาก 20 คนของผู้ตอบแบบสอบถาม ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ามีแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานอย่างน้อย 25 จุดภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ซึ่งรวมถึงอีก 2 คนที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นไตรมาสหน้า

ในการสำรวจเดือนเมษายน นักเศรษฐศาสตร์เพียง 2 คนเท่านั้นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ใน 4 ในปี 2022

แม้ว่าค่ามัธยฐานของการคาดการณ์จะแสดงอัตราดอกเบี้ยถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาดที่ 0.75% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 การคาดการณ์อยู่ในช่วง 0.50% ถึง 1.50% ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางของนโยบาย

ในขณะที่ 6 คนจาก 17 คน กล่าวว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% ภายในสิ้นเดือนมีนาคม อีก 4 คนกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1.00% หรือสูงกว่า และอีก 7 คนที่เหลือคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ 0.50%

ในการสำรวจครั้งล่าสุด ความคาดหวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานต่อจากนี้ ถูกย้ายไปที่ไตรมาสที่ 2 ปี 2023 จากไตรมาสที่ 3 ปี 2023 โดยปรับขึ้นเป็น 1.00% ซึ่งคาดว่าจะคงอยู่จนถึงสิ้นปีหน้า

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย