โดย Ambar Warrick
Investing.com - กิจกรรมการผลิตของจีนหดตัวเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนตุลาคม จากการสำรวจของภาคเอกชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวข้องกับโควิดยังคงส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ
เงิน หยวนจีน ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 15 ปีหลังการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจ โดยซื้อขายลดลง 0.3% เป็น 7.3228 เมื่อเทียบกับดอลลาร์
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin อยู่ที่ 49.2 ในเดือนตุลาคม โดยออกมาดีกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 49.0 และตัวเลขของเดือนกันยายนที่ 48.1
ถึงกระนั้น ค่าที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้หดตัว และนี่เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่การอ่านค่าต่ำกว่า 50 การระบาดของโควิดระลอกใหม่ในศูนย์กลางอุตสาหกรรม เช่น เซี่ยงไฮ้และหวู่ฮั่น ทำให้ทางการต้องบังคับใช้ข้อจำกัดการเคลื่อนไหวในเมืองต่าง ๆ และยังคงมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้ตัวเลขเดือนตุลาคมอ่อนแอลงไปอีก
รายงานของสถาบัน Caixin ยังเป็นไปตามการเปิดเผยข้อมูล ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของจีนดำเนินการได้แย่กว่าที่คาดไว้ในเดือนตุลาคมอย่างมาก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนที่เป็นดัชนีผสม ก็หดตัวในประเทศเช่นกัน
PMI ของรัฐบาลแตกต่างจากข้อมูลขากสถาบัน Caixin ในขอบเขตของผู้เข้าร่วมที่ทำการสำรวจ การสำรวจของรัฐบาลมุ่งเป้าไปที่องค์กรขนาดใหญ่ที่ดำเนินการโดยรัฐ ในขณะที่สถาบัน Caixin ครอบคลุมบริษัทเอกชนขนาดเล็ก นักลงทุนมักใช้การอ่านทั้งสองเพื่อวาดภาพกิจกรรมทางธุรกิจของจีนให้กว้างขึ้น
นโยบายปลอดโควิดที่เข้มงวดของจีนเป็นหัวใจของความวิบัติทางเศรษฐกิจในปีนี้ เนื่องจากการล็อกดาวน์ในศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลักหลายครั้งทำให้กิจกรรมทางธุรกิจต้องหยุดชะงัก ข้อมูลเดือนต.ค.แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะงักงันมากขึ้นหลังจากจากผ่อนปรนช่วงสั้น ๆ
ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าในขณะที่ ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน เติบโตมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ในไตรมาสที่สาม แต่ก็น้อยกว่าการคาดการณ์ธนาคารกลาง
รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้เพื่อช่วยหนุนการเติบโต แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างชัดเจน โรงงานในจีนกำลังเผชิญกับอุปสงค์จากต่างประเทศที่ซบเซาเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ลดลง
นักลงทุนต่างชาติก็ระมัดระวังการลงทุนในจีนเช่นกัน หลังจากที่รัฐบาลเพิ่งย้ำถึงการสนับสนุนนโยบายปลอดโควิด รวมถึงความกังวลต่อมาตรการต่อต้านธุรกิจในประเทศ หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันนั้นได้บั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศ