โดย Geoffrey Smith
Investing – เยอรมนีเผยแพร่รายงานการขาดดุลการค้ารายเดือนครั้งแรกในรอบ 30 ปีในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากราคาการนำเข้าน้ำมันและก๊าซพุ่งสูงขึ้นจากสงครามในยูเครน
เยอรมันนีเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งมีการสร้างแบบจำลองทางเศรษฐกิจจากการเกินดุลการค้าจำนวนมากตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ตอนนี้ดุลการค้าได้ ขาดดุล อยู่ที่ 1.0 พันล้านยูโร (1.04 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากค่านำเข้าเพิ่มขึ้น เกือบ 28% จากปีก่อนหน้า โดยประเทศมี การนำเข้า เพิ่มขึ้น 2.7% จากเดือนเมษายน
ในเวลาเดียวกันตัวเลข การส่งออก ลดลงเป็นครั้งที่สามในรอบห้าเดือน โดย 0.5% ในแง่ของการเปรียบเทียบตามปฏิทินและการปรับฤดูกาล แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 11.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ข้อมูลดังกล่าวเป็นภาพรวมของปัญหาที่เยอรมนีต้องเผชิญ รวมถึงปัญหาจากการขาดแคลนพลังงานที่ต้องพึ่งพาจากรัสเซีย การขาดดุลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน ซึ่งสะท้อนถึงการลดการนำเข้าปริมาณก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียถึง 60% ซึ่งทำให้ผู้นำเข้าไม่มีทางเลือกนอกจากการซื้อในราคาสปอต ณ จุดขายในราคาที่สูงกว่ามาก นักวิเคราะห์ชาวเยอรมันหลายคนกลัวว่ารัสเซียจะหยุดส่งอุปทานโดยสมบูรณ์ในช่วงครึ่งหลังของปี
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นของวันที่ Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เตรียมจัดการเจรจาวิกฤตกับสหภาพแรงงานและตัวแทนนายจ้างในกรุงเบอร์ลินเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
“อุตสาหกรรมทั้งหมดตกอยู่ในอันตรายจากการล่มสลายตลอดกาลเนื่องจากปัญหาคอขวดของก๊าซ” Yasmin Fahimi หัวหน้าสหพันธ์แรงงานแห่งเยอรมนีกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Bild am Sonntag ในการให้สัมภาษณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่รวมอุตสาหกรรมสารเคมี การผลิตแก้ว และอุตสาหกรรมอลูมิเนียมซึ่งทั้งหมดเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับภาคยานยนต์ที่สำคัญ “การล่มสลายดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานทั้งหมดในเยอรมนี” เธอกล่าวเสริม
ค่าเงิน ยูโร ร่วงลง 7.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้น โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีในเดือนพฤษภาคม ราคาทรงตัวที่ 1.0434 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 03:10 น. ET (07.10 GMT)