Investing.com - Bank of America (NYSE:BAC) (BofA) ได้เผยแพร่รายงานการประเมินถึงลูกค้าและตลาดเกี่ยวกับประเด็นสำคัญว่า ในที่สุดอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของสหรัฐฯ ก็ก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้องหลังจากไตรมาสแรกที่น่าเป็นห่วง และธนาคารยังคาดการณ์อีกว่าการเริ่มต้นวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมเท่านั้น
อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เห็นในรายงาน (CPI) นั้นเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 0.4% และต่ำกว่า 0.4% ของเดือนก่อนหน้า ด้านตัวเลข CPI แบบรายปีลดลงจาก 3.5% เป็น 3.4% ขณะที่ Core CPI ของเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 0.3% ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งต่ำกว่าเดือนก่อนที่ 0.4% และท้ายสุด Core CPI แบบรายปีลดลงจาก 3.8% เป็น 3.6%
BofA กำลังยินดีกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับลดลงและด้วยข้อมูล CPI ดังกล่าว และตอนนี้ BofA ยังคาดการณ์อีกว่า ข้อมูล ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นที่ 0.23% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนเมษายน
ตัวเลขเชิงบวกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีรายงานที่ดีเกินคาดตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่นักเศรษฐศาสตร์ Stephen Juneau และ Michael Gapen กับนักกลยุทธ์ Meghan Swiber และ Howard Du กลับกล่าวว่า "อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปได้ยากที่รายงานเพียงฉบับเดียวจะสร้างความมั่นใจอย่างมากกับเฟดได้"
ดังนั้น BofA จึงคาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนั้นจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม แม้ตลาดจะเชื่อว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยถึงสองครั้ง ครั้งละ 0.25 จุดในเดือนกันยายนก็ตาม "แค่เพียงเดือนเดียวและเราไม่คิดว่านี่เป็นก้าวที่ใหญ่เพียงพอจะทำให้เฟดมั่นใจมากขึ้น" พวกเขาประเมินถึงตัวเลขที่ได้รับการปรับปรุงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก แต่ระดับเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ของเฟด
แม้ตลาดจะพิจารณาว่าเดือนกันยายนนั้นเป็นไปได้ แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า "ข้อมูลเงินเฟ้อต้องลดลงมากกว่านี้หรือตัวเลขตลาดแรงงานต้องเย็นลงอย่างมาก ถ้าหากอยากให้เกิดการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนจริง ๆ"