BeInCrypto - ChatGPT นั้นได้กลายมาเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งานโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นผลิตภัณฑ์หรือแพลตฟอร์มใหม่ที่มีผู้ใช้งานมากถึง 1 ล้านคนในเวลาเพียง 5 วัน แต่ ChatGPT ก็ทำมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อลองเปรียบเทียบว่า Facebook นั้นใช้เวลากว่า 10 เดือน หรือ Instragram ที่ใช้เวลาเกือบ 4 เดือนกว่าจะมีผู้ใช้งานเกิน 1 ล้านคน แต่ถึงแม้ว่า ChatGPT การเติบโตของผู้ใช้งานและความสามารถที่น่าประทับใจ แต่มันก็ไม่ใช่แชทบอท AI ตัวเดียวในโลกอันกว้างใหญ่นี้ ดังนั้น เราจะไปดู “ตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ที่ดีที่สุด” และพูดคุยกันในเรื่องที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับตัวเลือกเหล่านี้ ตั้งแต่กรณีการใช้งานไปจนค่าใช้จ่ายต่อฟีเจอร์และประสิทธิภาพของมัน
รักษาความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่อจองคุณด้วย Atlas VPN: พวกเขาใช้งานโปรโตคอล WireGuard® ที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์การสตรีมเกม, การเล่นเกม, และการท่องเว็บของคุณนั้นมีความปลอดภัยและราบรื่น และยังทำการบล็อกเว็บไซต์ที่โฮสต์เนื้อหาที่เป็นอันตรายในรูปแบบต่างๆ เช่น ฟิชชิง, มัลแวร์, หรือเว็บไซต์กระจายไวรัสต่างๆ รับ Atlas VPN ของคุณพร้อมส่วนลด 81% ด้วยการใช้โค้ดโปรโมชั่น ATLASWELCOME ได้ที่ลิ้งค์นี้เลย!
ChatGPT คืออะไร?
ChatGPT เป็นแบบจำลองของภาษาที่ซับซ้อนที่ใช้เทคนิคการเรียนรู้ภายใต้การดูแลและการเสริมกำลัง สถาปัตยกรรมที่กว้างใหญ่และซับซ้อนนั้นช่วยให้แบบจำลองเข้าใจความหมายและบริบทของข้อความ รวมไปถึงสร้างการตอบสนองที่เหมือนมนุษย์ได้ มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายและสามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียดสำหรับงานประมวลผลภาษาธรรมชาติต่างๆ (NLP หรือ Natural Language Processing)
ความอเนกประสงค์ของ ChatGPT นั้นน่าประทับใจมาก มันสามารถสร้างชุดข้อความในรูปแบบต่างๆ, เขียนบทความ, เขียนอีเมล์ หรือแม้กระทั่งเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย คุณยังสามารถใช้มันเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อที่ซับซ้อนหรือจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ได้
อย่างไรก็ตาม ChatGPT นั้นก็มีข้อจำกัดและอคติอยู่ เช่นเดียวกับแบบจำลองการประมวลผลภาษาธรรมชาติด้วย AI ตัวอื่นๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจและควรค่าแก่การศึกษาค้นคว้า แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือเราจะต้องคำนึงถึงข้อจำกัดในการใช้งานของมัน รีวิว ChatGPT อย่างละเอียดของเรานั้นได้นำเสนอเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของแชทบอทยอดนิยมแห่งโลกอินเตอร์เน็ตตัวนี้
ทำไมเราถึงต้องการ “ตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT”
ถึงแม้ว่า ChatGPT จะเป็นแบบจำลอง AI ที่ใช้สนทนาที่มีความซับซ้อนสูง แต่ตัวเลือกอื่นๆ นั้นก็อาจจะเหมาะสมกว่าสำหรับการใช้งานในบางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราพิจารณาถึงข้อจำกัดเหล่านี้ของ ChatGPT:
- ความสามารถของ ChatGPT ถูกจำกัดไว้เพียงการให้ข้อมูลทั่วไปและให้ความช่วยเหลือด้วยข้อมูลที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ข้อมูลของแชทบอท AI นั้นถูกจำกัดไว้ที่ปี 2021 ซึ่งหมายความว่ามันจะไม่มีข้อมูลของเหตุการณ์หรือข่าวสารใดๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
- ChatGPT นั้นไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งแตกต่างจากตัวเลือกอื่นๆ เช่น ChatSonic
- OpenAI ยังไม่ได้เพิ่มการสนับสนุนการใช้งานด้วยเสียงใน ChatGPT ซึ่งนั่นหมายความว่ามันจะไม่รองรับคำสั่งด้วยเสียง
- มันไม่สามารถสร้างภาพได้
- เมื่อไม่นานมานี้ ด้วยเหตุจากการรับส่งข้อมูลที่สูงมากเกินไป มันได้ทำให้ ChatGPT โอเวอร์โหลดหรือไม่สามารถใช้งานได้บ่อยครั้ง
ตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ที่ดีที่สุด
1. ChatSonic
WriteSonic บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง ChatSonic นำเสนอตัวโปรแกรมนี้ในฐานะ “ตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ที่สร้างขึ้นด้วยพลังพิเศษ” แชทบอท AI นี้อัดแน่นไปด้วยเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้สร้างและใช้งานแอปพลิเคชั่นแชทบอทในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้
ChatSonic สามารถสร้างเนื้อหาต่างๆ ได้มากมายตามการป้อนข้อมูลของผู้ใช้งาน — ตั้งแต่ข้อความโฆษณาบน Facebook ไปจนถึงบทความหรือบล็อกยาวๆ ได้ แชทบอท AI นี้ยังเป็นมืออาชีพในการสนทนาอีกด้วย ทำให้มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้เป็นบริการสนับสนุนลูกค้า มันสามารถผสานรวมกับแอปหรือโปรแกรมบุคคลที่สามได้อย่างง่ายดาย ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการใช้งานแชทบอท AI กับระบบที่พวกเขามีอยู่แล้ว
ChatSonic นั้นแตกต่างจาก ChatGPT ตรงที่มันสามารถช่วยคุณค้นหาข้อมูล, รูปภาพ, และเสียงในแบบเรียลไทม์ได้
และที่เยี่ยมที่สุดก็คือ ChatSonic นั้นไม่มีการจำกัดข้อมูลความรู้ของมัน มันผสานรวมกับระบบค้นหาของ Google (NASDAQ:GOOGL) ช่วยให้มันมีเนื้อหาที่ตรงประเด็นและทันสมัยในหัวข้อใดๆ ที่คุณต้องการทราบอยู่เสมอ
ฟีเจอร์หลัก:
- ChatSonic สามารถจัดหาข้อมูลต่างๆ ที่อัพเดตล่าสุดจากอินเตอร์เน็ตมาให้ได้แบบเรียลไทม์
- ChatSonic จะให้คุณเลือกใช้งานจาก 16 บุคลิกที่แตกต่างกันเพื่อโต้ตอบได้ ดังนั้น คุณจึงสามารถปรับแต่งประสบการณ์การสนทนากับ AI ได้อย่างที่คุณต้องการ
- มันสามารถรับฟังการตอบโต้ของเราได้ — เหมือนกับ Siri และ Google Assistant — สิ่งนี้ทำให้มันน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ฟีเจอร์นี้จะช่วยประหยัดเวลาให้คุณโดยคุณไม่จำเป็นต้องพิมพ์ด้วยตัวเองได้
- ChatSonic ช่วยให้คุณสร้างภาพที่กำหนดเองได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว! มันทำได้โดยการใช้แบบจำลอง 2 ตัวที่แตกต่างกัน — Stable Diffusion และ DALL-E
- ChatSonic ช่วยให้คุณบันทึก, แก้ไข, และดาวน์โหลดแชทของคุณได้
- ChatSonic API ช่วยให้สามารถผสานรวมกับซอฟต์แวร์ที่คุณมีอยู่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น ตัว API นั้นมีความเอนกประสงค์และสามารถใช้เพื่อผสานรวม ChatSonic ได้ทั้งกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นมือถือ
คุณสามารถทดลองใช้ ChatSonic ได้ฟรี ในขณะที่เขียนบทความนี้ แผนชำระเงินเริ่มต้นที่ประมาณ 12 ดอลลาร์ต่อเดือน และสูงสุดถึง 666 ดอลลาร์ต่อเดือน (สำหรับแผนรายปี) ธุรกิจต่างๆ นั้นสามารถติดต่อ WriteSonic เพื่อขอสร้าง/ใช้งานแผนชำระเงินแบบกำหนดเองได้
2. YouChat
YouChat นั้นขับเคลื่อนโดย GPT-3.5 ของ OpenAI ซึ่งเป็น AI รุ่นเดียวกับที่ใช้ขับเคลื่อน ChatGPT มันมีอินเตอร์เฟสที่เรียบง่ายซึ่งสามารถทำงานร่วมกับเครื่องมือค้นหาของ You.com ได้อย่างลงตัว ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถค้นหาหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของคุณ รวมทั้งสามารถสนทนากับแชทบอท AI ได้ หากคุณต้องการฟีเจอร์ทั้ง 2 อย่างนี้ YouChat นับว่าเป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณา
แบบจำลอง AI ตัวนี้ใช้ทั้งปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลภาษาธรรมชาติเพื่อทำให้มีการตอบสนองเหมือนมนุษย์ในการสนทนา มันสามารถตอบคำถามในหัวข้อต่างๆ, ทำการแปล, สรุปข้อความ, แนะนำเรื่องความคิดสร้างสรรค์, เขียนโค้ด, และเขียนอีเมล์ได้ คุณภาพของคำตอบนั้นเทียบเท่ากับของ ChatGPT
เป็นที่น่าเสียดายว่า YouChat ก็ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดของ GPT-3.5 เช่นเดียวกับ ChatGPT ซึ่งก็คือการมีช่วงความรู้ที่ไม่เกินปี 2021 แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า ChatGPT ปฏิเสธที่จะตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากปี 2021 แต่สำหรับ YouChat นั้น บางครั้งมันก็พยายามที่จะตอบคำถามดังกล่าว (ซึ่งโดยปกติจะให้คำตอบที่ผิด)
ฟีเจอร์หลัก:
- ผู้ช่วยส่วนตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI
- เครื่องมือค้นหาด้วย AI
- การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (์NLP)
- รองรับการสนทนาตามบริบท
- เครื่องสร้างภาพด้วย AI
- แชทบอทสำหรับการสนับสนุนลูกค้า
- การวิเคราะห์ความรู้สึกอัตโนมัติ
- การให้บริการลูกค้าอัตโนมัติ
- การจัดการงานอัตโนมัติ
- การให้คำตอบแก่ลูกค้าอัตโนมัติ
- การแบ่งกลุ่มลูกค้าอัตโนมัติ
- การต้อนรับลูกค้าอัตโนมัติ
YouChat นั้นยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา มันสามารถใช้งานได้ฟรี แต่ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น เครื่องมือเขียนด้วย AI อาจจะจำกัดการใช้งานบางส่วนในการใช้งานฟรี
3. Bloom
Bloom เป็นผู้นำในกลุ่มตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT มันเป็นแบบจำลองทางภาษาที่หลากหลายแบบโอเพ่นซอร์สที่จะมอบฟีเจอร์และข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้ใช้งาน ในขณะที่ทั้ง ChatGPT และ Bloom ต่างก็นำเสนอระบบ NLP ที่มั่นคง แต่มันก็ยังมีข้อแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างแบบจำลองทั้งสองตัว
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ AI กว่า 1,000 คนได้ร่วมกันพัฒนา Bloom มันต้องใช้กราฟิกการ์ด 384 ตัวที่มีหน่วยความจำรวม 80 กิกะไบต์และพารามิเตอร์ 1.76 แสนล้านตัวในการสร้าง Bloom ขึ้นมา ถ้าจะให้เปรียบเทียบ นั่นมากกว่า GPT-3 ถึงหนึ่งพันล้าน
นอกจากนี้ แบบจำลองยังได้รับการฝึกฝนใน 46 ภาษาและ 13 ภาษาสำหรับการเขียนโค้ด และมันสามารถเข้าถึงได้ในหลายๆ เวอร์ชั่นด้วยพารามิเตอร์ที่น้อยลง — ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก HuggingFace และ BigScience Workshop
ในเชิงประสิทธิภาพนั้น ChatGPT นั้นทำได้ดีกว่า Bloom เล็กน้อย ในขณะที่ Bloom สามารถประมวลผลได้ประมาณ 8,000 ข้อความต่อวินาที ChatGPT สามารถประมวลผลได้ 10,000 ข้อความต่อวินาที สำหรับการใช้งานโดยส่วนใหญ่นั้น ความแตกต่างของประสิทธิภาพระหว่างแบบจำลองทั้ง 2 ตัวนั้นไม่มีนัยสำคัญแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาระบบที่ประมวลผลข้อความให้ได้มากที่สุด มันก็เป็นสิ่งที่คุณควรจะคำนึงถึงด้วยเช่นกัน
Bloom ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้พัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชัน NLP ถึงแม้ว่าแบบจำลองทั้ง 2 ตัวนั้นจะทรงพลังพอๆ กัน แต่ Bloom สามารถปรับขนาดได้มากกว่าและขยายขอบเขตได้ง่ายกว่าด้วยฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ๆ นอกจากนี้ มันยังมีคุณสมบัติที่ ChatGPT ไม่มี เช่น การเขียนสคริปต์แบบไดนามิก ซึ่งทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชั่นที่ซับซ้อน
คุณสามารถดาวน์โหลดและใช้งาน BLOOM ได้ฟรี และเนื่องจากมันเป็นโอเพ่นซอร์ส คุณจึงสามารถปรับแต่งมันให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ตัวอื่นๆ การใช้งาน BLOOM นั้นอาจจะต้องมีความสามารถทางเทคนิคในระดับหนึ่ง
4. GPT Playground
GPT Playground นั้นมีเชื้อสายมาจาก ChatGPT เช่นกัน ทั้งคู่ถูกพัฒนาโดย OpenAI และมีพื้นฐานจาก GPT-3 อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนี้ได้รับการพัฒนาโดยการให้ความสำคัญในแง่มุมที่ต่างกัน ChatGPT ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การโต้ตอบที่ดียิ่งกว่า ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถสื่อสารกับแชทบอทที่มีพื้นฐานเป็น AI ได้
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว OpenAI สร้าง GPT Playground ที่จะช่วยให้คุณได้ศึกษา, ทดลอง, และใช้ความเข้าใจในภาษาธรรมชาติ รวมถึงการระบุความรู้สึกและเจตนาทางอารมณ์ของการสื่อสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากนี้ มันยังมีแบบจำลองภาษาที่จะช่วยให้คุณศึกษาและสร้างแบบจำลองตามพื้นฐานของภาษาได้ ซึ่งคุณสามารถใช้มันเพื่อสร้างแบบจำลองที่สร้างข้อความได้
มันจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจการสร้างภาษา ซึ่งเป็นกระบวนการใช้แบบจำลองภาษาเพื่อสร้างข้อความ คุณยังสามารถใช้มันเพื่อสร้างและทดสอบแบบจำลองที่ใช้เทคนิค NLP ต่างๆ รวมถึงการจดจำเอนทิตี้ที่มีชื่อ, การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของแต่ละคำในประโยคตามหลักภาษา, และการศึกษาโครงสร้างของประโยคและกฏไวยากรณ์
อย่างไรก็ตาม GPT Playground มี UI ที่ค่อนข้างซับซ้อนและมีการประชาสัมพันธ์ต่อผู้บริโภคที่ค่อนข้างจำกัด
ถึงแม้ว่า ChatGPT จะได้รับความสนใจในวงกว้างกว่า แต่ GPT-3 นั้นเป็นแบบจำลอง AI ที่ใหญ่กว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่ามาก ซึ่งทำให้ GPT Playground เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะใช้งานแทน ChatGPT มันสามารถทำสิ่งที่ ChatGPT ทำได้ และยังสามารถปรับแต่งตัวเลือกเพิ่มเติมเพื่อให้ได้แบบจำลองแบบที่คุณต้องการได้ และเช่นเดียวกับ ChatGPT GPT Playground ก็สามารถใช้งานได้ฟรีเช่นกัน
ตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ได้แสดงให้เห็นถึงอนาคต
ตั้งแต่ OpenAI เปิดตัวแบบจำลอง AI ตัวล่าสุดสู่สาธารณะ แพลตฟอร์มต่างๆ ก็ได้พยายามทำการทดลองและปรับแต่งแก้ไขเทคโนโลยีและแอปพลิเคชั่นนี้อย่างละเอียดเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ ความสามารถของตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ที่เราได้กล่าวไปในบนความนี้นั้นเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่แชทบอท AI จะสามารถเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมนี้ได้ ในอนาคตข้างหน้า เราอาจจะได้เห็นตัวเลือกการใช้งานแทน ChatGPT ที่ทรงพลังยิ่งกว่าถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อเทคโนโลยี AI และ Machine Learning พัฒนาไปมากยิ่งขึ้น