แม้ว่าธนาคารกลางหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก จะเริ่มปรับใช้นโยบายที่กำหนดขึ้นเพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อ แต่ความวุ่นวายด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจทำให้พวกเขาเร่งปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสกุลเงิน Fiat แต่เป็นเรื่องดีสำหรับ Crypto ในระยะยาว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางได้ใช้นโยบายการเงินเพื่อคงอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 2% หรือต่ำกว่า ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจะพยายามควบคุมหนี้สินต่อไปเพื่อรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจนี้ ทว่ากฎเกณฑ์ดังกล่าวได้พังทลายลงในช่วงวิกฤตการเงินในปี 2008 อันมีสาเหตุมาจากธนาคารเพื่อการลงทุนที่หากำไรจากสินเชื่อ ซึ่ง Bitcoin ได้เกิดขึ้นจากการล่มสลายทางเศรษฐกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามมาด้วยการแทรกแซงจากธนาคารเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ความล้มเหลวทางการเงินกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงอย่างมหาศาลจนเกินควบคุม และธนาคารกลางต่าง ๆ ก็พยายามต่อสู้เพื่อรักษาสถานการณ์ไว้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว The Economist ชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ที่มีมายาวนานอาจเพิ่มขึ้นเป็น 4% โดยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม Jeremy Allaire ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Circle ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อตอบสนองต่อข้อเสนอของผู้ให้บริการด้านสภาพคล่องของ Crypto อย่าง Cumberland ตามรายงานของ The Economist การแก้ไขเป้าหมายที่เพิ่มเป็น 4% จะช่วยให้ธนาคารกลางสามารถจัดการกับงบประมาณแผ่นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหาทางออกจากวิกฤตการณ์เงินเฟ้อที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนั้นยังไม่ใช่วิธีการที่ดีนัก
กดอ่านข่าว ผู้เชี่ยวชาญชี้ “ระดับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% จะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาด Crypto” ต่อที่ Siam Blockchain