Arthur Hayes อดีต CEO ของ BitMEX อธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมปี 2022 ถึงจะกลายเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Ethereum หลังจากที่เครือข่ายได้เปลี่ยนมาใช้อัลกอริทึ่ม Proof-Of-Stake ในทางตรงกันข้าม เขาเรียก Bitcoin ว่า “เงินบริสุทธิ์” ที่ “ไม่ได้ให้ผลผลิตอะไรเลย” Hayes มองว่า Ethereum เป็นการลงทุนที่ดีกว่าไม่เพียงแค่ Bitcoin เท่านั้น แต่ยังดีกว่าโปรโตคอล L1 ตัวอื่น ๆ ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มีมูลค่าสูงเกินไป นอกจากนี้การอัพเกรดที่มีกำหนดจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปีนี้ยังจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่ทำให้ Ethereum แซงหน้าคู่แข่งคนอื่น ๆ อีกด้วย อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Bitmex ยังคงเชื่อมั่นใน Ethereum ตามบล็อกโพสต์ล่าสุด เขากล่าวว่า เขาได้ปรับพอร์ตการลงทุนในปี 2022 ใหม่เป็น Bitcoin 25% และ Ethereum 75% จากก่อนหน้านี้ที่เขาได้แบ่งเป็น Bitcoin 50% และ Etherem 50% เมื่อตอนช่วงต้นปี Hayes ได้ทำการปรับพอร์ตในลักษณะดังกล่าว เพราะเขาเล็งเห็นว่า Bitcoin เป็น “เงินบริสุทธิ์” ในขณะที่ ETH หลังจากการมาของ “Merged” จะทำให้มันกลายเป็นพันธบัตรที่เชื่อมโยงอยู่กับสินค้าโภคภัณฑ์ อดีต CEO ของ BitMEX กล่าวว่า : “ETH เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ในการจ่ายไฟให้กับคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เครื่องมือทางการเงิน” ในแง่ของผลตอบแทนจากการ Staking Ethereum, Hayes ได้อ้างอิงถึงบทวิเคราะห์ที่จัดทำโดย Justin Drake นักวิจัย ETH ที่ออกมาให้คำคาดการณ์ว่า ผู้ที่ Stake จะได้เห็น APR เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 8–11.5% หลังจากการมาของ Merged จากการวิเคราะห์ Hayes เชื่อว่า Ethereum มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งในตลาด เนื่องจาก Ethereum มีนักพัฒนาจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับโปรโตคอล L1 ตัวอื่น ๆ ในขณะที่อัตราส่วนราคา / นักพัฒนานี้ แสดงให้เห็นว่า Ethereum มีคะแนนต่ำที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมด “Ethereum มีนักพัฒนา 4,000 ราย ซึ่งมากกว่าเครือข่ายอื่น ๆ ถึง 3 เท่า โดยกลุ่มนักพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองลงมาคือ Polkadot” นอกจากนี้ เมื่อสังเกตจากอัตราส่วน “Price / TLV & Price / Address Ratio” เขายังสรุปด้วยว่า Ethereum มีราคาแพงน้อยที่สุด ด้วยประสิทธิภาพที่เป็นรูปธรรม ซึ่งวางตัวเองในตำแหน่งผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มสัญญา Smart contract ตัวอื่น ๆ
กดอ่านข่าว Arthur Hayes อดีต CEO ของเว็บเทรดคริปโต BitMEX คาดราคา Ethereum จะพุ่งแตะ 1 หมื่นดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ต่อที่ Siam Blockchain