ศาลสูงของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศาลฎีกาสูงสุดของประเทศ ที่ได้ออกคำตัดสินให้ Crypto มีสถานะเป็นสินทรัพย์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ศาลสิงคโปร์ออกมายอมรับว่า crypto นั้นเป็นสินทรัพย์ ในระหว่างการตัดสินคดีบุคคลที่ต้องสงสัยว่าได้รับคริปโตที่มาจากแฮค การฟ้องร้องคดีดังกล่าวได้มีการกล่าวหาบุคคลที่ต้องสงสัยว่า มีการขโมย bitcoin (BTC) และ ethereum (ETH) มูลค่ารวมประมาณ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และศาลได้กำหนดให้มี เว็บเทรด crypto ที่ไม่ระบุชื่อสองแห่ง ซึ่งจัดเก็บคริปโตไว้ก่อนหน้าที่สินทรัพย์จะถูกขโมยไป เปิดเผยข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานสามารถติดตามสินทรัพย์ที่ถูกขโมยไป จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่จัดทำโดยเว็บไซต์ Lexology.com ซึ่งเป็นกลุ่มนักกฎหมายจากสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ Reed Smith LLP ระบุว่า คำตัดสินของศาลชี้ให้เห็นถึงการพัฒนาในเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรม Crypto โดยสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าศาลของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “พร้อมที่จะยอมรับและปกป้องคริปโต โดยการให้มีคำสั่งห้าม เพื่อการป้องกันการโจรกรรม แม้ว่าจะไม่ทราบตัวตนของผู้กระทำความผิดก็ตาม” การตัดสินใจครั้งล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่า ศาลสิงคโปร์พร้อมแล้วที่จะออกคำสั่งต่อบริษัทเว็บเทรด crypto ที่มีฐานหรือมีการดำเนินงานในประเทศ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมหรือฉ้อโกงสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ รวมการระงับและการติดตามสินทรัพย์ Crypto ที่ถูกขโมยไป “สำหรับเว็บเทรดคริปโตที่มีฐานหรือมีการดำเนินงานในสิงคโปร์ การตัดสินใจนี้หมายความว่า พวกเขาได้รับคำสั่งที่ออกโดยศาลสิงคโปร์เพื่อเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ และ คำสั่งระงับคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่ถืออยู่ในบัญชีของผู้ใช้ ” ตามข้อมูลการวิเคราะห์ของ Lexology.com ทนายความกล่าวว่า คำสั่งศาลนี้จะมีผลเหนือเงื่อนไขสัญญาระหว่างเว็บเทรด crypto และผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของลูกค้าในการทำธุรกรรม crypto และหน้าที่ของเว็บเทรดในการรักษาความลับที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลผู้ใช้ ที่มา : cryptonews
กดอ่านข่าว ศาลสิงคโปร์กำหนดให้ Crypto มีสถานะเป็นสินทรัพย์ ท่ามกลางการตัดสินคดีโจรกรรม ต่อที่ Siam Blockchain