ในการให้สัมภาษณ์กับ CNN นาย Sam Bankman-Fried CEO ของ FTX สนับสนุนนโยบายภาษีความมั่งคั่งที่เสนอขึ้นใหม่ในสหรัฐอเมริกา เขาได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องการที่ FTX ไปเปิดสำนักงานใหญ่ในประเทศบาฮามาสเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีที่แพงไปว่า “มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่” จะปฏิรูปภาษีที่มีอยู่และเก็บภาษีเพิ่มเติมจากมหาเศรษฐีรวมถึงตัวของเขาเองด้วย คนที่รวยที่สุดควรหรือไม่ก็มากกว่านั้น เมือ่ถูกถามถึงความเห็นของเขาเกี่ยวกับภาษีความมั่งคั่งที่เสนอในสหรัฐอเมริกาซึ่งกำหนดเป้าหมายไปที่คนที่รวยที่สุดซึ่งคิดเป็นจำนวน 0.0005% ของชาวอเมริกัน Sam กล่าวว่าที่เขาได้พูดแนะนำการปฏิรูปที่กล่าวไว้เป็นเรื่อง “สมเหตุสมผล” “ผมสนับสนุนแนวคิดที่ว่าคนที่รวยที่สุดควรจ่ายส่วนแบ่งอย่างยุติธรรมและอาจจะมากกว่านั้น” เขากล่าวกับ Julia Chatterley ของ CNN แม้ว่าความรู้สึกโดยทั่วไปของเขาเกี่ยวกับแผนภาษีอันทะเยอะทะยานของประธานาธิบดี Joe BIden จะเป็นไปในทิศทางบวกแต่เขาก็ยังตั้งข้อสังเกตว่ายังมีช่องโหว่อีกมากที่ต้องแก้ไขก่อนจะนำไปใช้งานจริงเขาอธิบายว่าควรเปลี่ยนรูปแบบกฏหมายให้นำไปสู้การเก็บภาษีคนที่มีทรัพย์สินเป็ฯจำนวนมาก สิ่งที่ Sam นั้นพยายามพูดถึงข้อขัดแย้งของภาษีจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงซึ่งจะเรียกเก็บภาษีจำนวนมากสำหรับสินทรัพย์ที่ถือโครงโดยคนที่รวยที่สุดในอเมริกาซึ่งประกอบไปด้วย อสังหาริมทรัพย์, หุ้น, งานศิลปะ ฯลฯ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยแปลงกำไรเหล่านั้นเป็นเงินสดเลยก็ตาม และขณะที่ภาษีความมั่งคั่งของ Joe Biden จะส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์หรือมีรายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันหลายคนเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการเปิดทางสำหรับภาษีที่ค้ลายคลึงกันซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคนที่มีฐานะร่ำรวยและปานกลาง อย่างไรก็ตาม Sam กล่าวเสริมว่าเขาวางแผนที่จะบริจาคทุกอย่างที่เขาทำมาตลอดชีวิตเพื่อการกุศลเขาอธิบายว่ามันเป็ฯหน้าที่ของคนรวยที่จะให้คืนให้ผู้อื่นไม่ใช่เพียงเพื่อ “เห็นแก่พวกเขา แต่เพื่อช่วยโลก” นั่นเป็นเหตุผลที่เขาบริจาคให้กับสิ่งที่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้ในระยะยาว เช่น การขจัดความยากจนทั่วโลก, การเตรียมความพร้อมสำหรับโรคระบาด และการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
กดอ่านข่าว CEO ของ FTX เห็นด้วยว่าเศรษฐีพันล้านควรจ่ายภาษีมากขึ้นรวมถึงตัวเขาเองด้วย ต่อที่ Siam Blockchain