จนถึงวันนี้ Ripple Labs ได้ต่อสู้กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (SEC) มาเป็นเวลานานเกือบปีแล้ว โดยเมื่อ Ripple ถูกกล่าวหาครั้งแรกจากก.ล.ต.ว่า พวกเขากำลังละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลายคนในชุมชนคริปโตก็พยายามออกมาช่วยสนับสนุน Ripple อย่างไรก็ตามนั้นไม่ใช่สิ่งที่ซีอีโอของ Messari เห็นด้วย Ryan Selkis ซีอีโอของ Messari เชื่อว่าในขณะที่ Ripple บอกว่าตัวเองว่าพวกเขาไม่มีความผิดตามที่กล่าวมา แต่จริง ๆ แล้วพวกเขามีความผิดฐานฉ้อโกงและควรถูกตั้งข้อหาตามนั้น ใน Twitter ล่าสุด Selkis ได้พยายามโจมตีความเป็นผู้นำของ Ripple โดยกล่าวว่า “พวกเขาทำให้ผู้ถือ XRP เข้าใจผิดเกี่ยวกับการขายเหรียญ โดยใช้ข้อมูลภายใน และเปิดเผยเฉพาะข้อมูลที่มีการคัดสรรมาแล้วเท่านั้น อีกทั้งยังหลอกลวงให้พาร์ทเนอร์เข้ามาเป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเหรียญ” ทั้ง Selkis ยังโต้แย้งฝั่งก.ล.ต.ด้วยว่า หาก Gary Gensler ประธานคณะกรรมการก.ล.ต. สนับสนุนข้อเสนอ Safe Harbor ของ Hester Peirce, คดีที่ยืดเยื้อยาวนานของ Ripple นั้นก็อาจไม่เกิดขึ้น Hester Peirce กรรมาธิการ ก.ล.ต. หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “crypto-mom” ได้เปิดตัวข้อเสนอหลายฉบับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเธอได้นำเสนอระยะเวลาผ่อนผัน 3 ปีเพื่อให้โครงการต่าง ๆ สามารถเปิดตัวได้สำเร็จ เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง แม้ว่าเธอจะได้รับผลตอบรับเชิงบวกมากมายเกี่ยวกับเรื่องเดียวกันนี้ แต่เธอก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการคนอื่น ๆ นอกจากนี้ Selkis ยังได้ยกตัวอย่างจากการดำเนินธุรกิจของ Ripple เพื่อพิสูจน์ว่าข้อเสนอ Safe Harbor จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างไร ประการแรก Peirce เสนอว่า บริษัทควรให้ข้อมูลที่เพียงพอสำหรับบุคคลที่ 3 เพื่อตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมของโทเค็น ซึ่ง Selkis เชื่อว่าสิ่งนี้จะ “จะช่วยให้แน่ใจได้ว่า Ripple มีการรองรับผู้ใช้งานอย่างอิสระและมี block explorer ที่แยกออกมาต่างหาก” จุดสำคัญต่อไปที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอดังกล่าวก็คือ เอกสารข้อมูลการทำธุรกรรมโทเค็นที่สามารถอธิบายยอดขายโทเค็นของ Ripple ในอดีตได้ทั้งหมด พร้อมกับ “การค้นหาข้อมูลส่วนลดสำหรับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ” Selkis
กดอ่านข่าว CEO ของ Messari กล่าว Ripple มีความผิดฐานฉ้อโกง แต่ไม่ใช่การละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ ต่อที่ Siam Blockchain