การอัปเกรด Altair บน Beacon Chain ของ Ethereum 2.0 ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและประสบความสำเร็จในแต่ละโหนดไปแล้วกว่า 98.7% โดยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา Preston Vanloon ผู้พัฒนา Ethereum 2.0 ได้ทวีตข้อความว่าการอัปเกรด Altair นั้นได้เปิดการดำเนินการแล้ว ทั้งนี้ Altair เป็นการอัปเกรดครั้งแรกของ Beacon Chain นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2020 และน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะรวมเข้ากับ Ethereum mainet โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อเป็นการพิสูจน์กระบวนการตาม EIP-2982 Paul Hauner เป็นหัวหน้านักพัฒนาและผู้ตรวจสอบโค้ด Altair ใน Lighthouse ซึ่งเป็นการนำ Ethereum 2.0 ไปใช้งานบนเครือข่ายได้กล่าวว่า “Altair นำเสนอการเปลี่ยนแปลงหลักสองประการ ประการแรกคือเพิ่มการรองรับ light clients ซึ่งเป็นโหนดที่มีทรัพยากรต่ำและมีความสามารถในการติดตามด้วยคุณสมบัติที่น้อยลงแม้ว่าจะมีความปลอดภัยที่อ่อนแอกว่าเล็กน้อย ประการที่สองมันเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ออฟไลน์ นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงหลักสองประการนี้แล้วยังเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพียงเล็กน้อย” อย่างไรก็ตามการอัปเกรด Altair ถือเป็นการ hard fork นั่นหมายความว่าผู้ตรวจสอบ 250,000 คนหรือมากกว่านั้นที่ไม่ได้อัปเกรดขณะนี้ออฟไลน์ และจะเห็นสัดส่วนการถือครอง ETH ของพวกเขาค่อย ๆ ลดลงในอัตราประมาณ 10% ต่อปี เพื่อให้เข้ากันได้กับการอัปเกรด Altair ผู้ที่จะดำเนินการบน Beacon chain จำเป็นต้องอัปเดตเวอร์ชันไคลเอ็นต์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น นักพัฒนา Ethereum จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกหากการอัปเกรดประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้และพร้อมที่จะ “ปิดการใช้งาน Proof of Work ตลอดไป” ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้นักพัฒนาอธิบายถึงความสำคัญของการอัปเกรดในบล็อกโพสต์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาโดยมีเนื้อความว่า “นี่เป็นการฝึกปฏิบัติในชีวิตจริงเพียงหนึ่งเดียวของเราในการอัปเกรด beacon chain ก่อนจะควบรวมกิจการ และถ้ามันแย่ (อาจเป็นเพราะนักลงทุนสาย staking หลายคนไม่ได้อัปเกรดในเวลาที่กำหนด) และพร้อมสำหรับการอัปเกรด stake หรือที่เรียกว่า The Merge โดยจะเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ
กดอ่านข่าว Ethereum 2.0 ทำการอัพเกรดตัว Altair ไปอย่างราบรื่นแล้วกว่า 98.7% ต่อที่ Siam Blockchain