SpaceChain บริษัทสตาร์ทอัพบล็อกเชนในประเทศสิงคโปร์ ได้ประกาศเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนเกี่ยวกับการปล่อยตัว Payload ที่สามารถใช้งานบล็อกเชนได้ จากศูนย์อวกาศ Kennedy Space Center ของ NASA ด้วยจรวด SpaceX Falcon 9 โดยยานอวกาศขนส่งสินค้า Dragon ของ Space X ได้เทียบท่ากับโมดูล Harmony ของสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ตามรายงานจากเว็บไซต์ของ SpaceChain ภารกิจดังกล่าวเป็นไปได้ด้วยความร่วมมือระหว่าง Nanoracks และข้อตกลง Space Act กับ NASA ซึ่งเป็นการปล่อย Payload บล็อกเชนขึ้นสู่อวกาศเป็นตัวที่ 4 และเป็นการนำเทคโนโลยี Ethereum เข้ามารวมกับฮาร์ดแวร์เป็นครั้งแรกบนสถานีอวกาศนานาชาติ Zee Zheng ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ SpaceChain กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำแพลตฟอร์ม Ethereum ขึ้นสู่อวกาศ และทดสอบว่าทำไมระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ของดาวเทียมจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของแอปพลิเคชันบล็อกเชน โดยเมื่อปี 2019 เราได้ทดลองปล่อยตัว Payload สำหรับบิทคอยน์ และวันนี้เราได้ปล่อยตัว Payload สำหรับ Ethereum เป็น Payload รุ่นที่สองของเรา บิทคอยน์และ Ethereum เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมบล็อกเชนที่มีระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุด ด้วยแพลตฟอร์ม Smart Contracts ของ Ethereum ที่ถูกดำเนินการในอวกาศ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแอปพลิเคชันบล็อกเชนและความปลอดภัยในการทำธุกรรมที่มากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้และนักพัฒนาได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีของเรามากยิ่งขึ้น” Jeff Garzik ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ SpaceChain กล่าวว่าการดำเนินการ Ethereum บนอวกาศยังมีความสำคัญต่อการนำ Ethereum ไปใช้ในองค์กรต่าง ๆ “Ethereum และเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นมีโครงสร้างแบบกระจายศูนย์โดยธรรมชาติ การผสานรวมระหว่างเทคโนโลยีจะสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยและช่องโหว่ที่เซิร์ฟเวอร์แบบรวมศูนย์บนพื้นโลกกำลังเผชิญอยู่ นอกจากนี้มันยังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการใช้งานเชิงพาณิชย์อื่น ๆ” Garzik กล่าว
กดอ่านข่าว แม้ Ethereum จะยังไม่ไปดวงจันทร์ แต่ Node ของเครือข่ายอยู่สถานีอวกาศแล้ว ต่อที่ Siam Blockchain