แม้ว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบันจะมีสถานการณ์น่าเป็นห่วง แต่โดยรวมของตลาดคริปโตก็ยังมีมูลค่าตลาดมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ และยังมีมูลค่าอีกกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์ที่ถูกล็อคไว้ในโปรโตคอลแบบ DeFi ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้คนและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของคริปโตเคอร์เรนซีและการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ขณะที่ประเทศทั่วโลกต่างเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) มากขึ้นเรื่อย ๆ สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก ก็กำลังศึกษาเทคโนโลยีในหลาย ๆ ด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจในอนาคต โดยกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มการเงินที่จะรองรับ CBDC ของหลาย ๆ ประเทศในอนาคต พร้อมทั้งยังจับตาดูระบบการเงินแบบ DeFi ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว “DeFi เป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามแอปพลิเคชัน DeFi ส่วนใหญ่ยังมีอายุไม่ถึง 2 ปี ทำให้เรายังไม่ทราบถึงข้อดีข้อเสียที่ชัดเจนของมัน และ MAS กำลังทำการศึกษาระบบการเงินแบบ DeFi อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินศักยภาพสำหรับการนำไปใช้ในวงกว้าง” Tharman Shanmugaratnam ประธาน Monetary Authority of Singapore ตอบคำถามของรัฐสภาเกี่ยวกับ DeFi โดยขณะนี้ MAS กำลังร่วมมือกับ BIS Innovation Hub Center ในสิงคโปร์และชุมชนธนาคารกลางอื่น ๆ ในโครงการ “Project Dunbar” ที่จะออกแบบ, พัฒนา และทดสอบโมเดล m-CBDC สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย CBDC ระหว่างสถาบันการเงิน ตามข้อมูลจาก BIS Innovation Hub Center เปิดเผยว่า Project Dunbar จะศึกษา Smart Contracts และ multi-CBDCs เกี่ยวกับกลไกและอัลกอริทึมที่จะช่วยให้การจับคู่และการชำระธุรกรรมและเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเรียนรู้จากการพัฒนาบล็อกเชนและ DeFi ด้วยความร่วมมือระหว่างสิงคโปร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ไทย, ฮ่องกงร่วมกับจีน และ BIS Innovation Hub ได้สร้างสะพานเชื่อมระหว่าง multiple-CBDCs สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน “นี่คือศูนย์กลางความร่วมมือระหว่างชุมชนของธนาคารกลาง ที่จะนำร่องแพลตฟอร์มการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย CBDC ระหว่างสถาบันการเงินในระดับพหุภาคีของโลก”
กดอ่านข่าว สิงคโปร์กำลังศึกษา DeFi และ CBDC ในภาคธุรกิจและประชาชน ต่อที่ Siam Blockchain