BeInCrypto - ในเดือนมีนาคม 2023 จำนวนอุปทาน USD Coin (USDC) ของ Circle ลดลงกว่า 23% เหลือ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจาก Stablecoin ประสบปัญหาวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ
ปัญหาของ USDC เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2023 เมื่อมีการเปิดเผยว่าทุนสำรองจำนวน 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของบริษัทนั้นเก็บไว้ที่ธนาคาร Silicon Valley Bank ซึ่งเป็นมิตรกับบริษัทคริปโต เมื่อข่าวดังกล่าวแพร่สะพัด ทำให้มูลค่าของ USDC ลดลงต่ำสุดที่ 0.87 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ในไม่ช้า ราคาของ Stablecoin จะกลับมาที่ราคาที่ใช้ USD ตรึงไว้ได้อีกครั้ง หลังจากที่ผู้ให้บริการ Stablecoin ให้คำมั่นกับผู้ใช้งานว่าจะครอบคลุมมูลค่าส่วนที่ขาดหายไป แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนฟื้นคืนมา นำไปสู่การถอนการลงทุน USDC าอย่างมหาศาล คิดเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
USDC Chart (Source: BeInCrypto)
ในช่วงเวลาดังกล่าว ทางผู้ออก Stablecoin ได้จัดการกับผู้ที่พยายามฟิชชิงผู้ใช้งาน USDC กล่าวคือ มีแฮ็กเกอร์รายหนึ่งพยายามแฮ็กบัญชี Twitter ของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Circle และหัวหน้าฝ่ายนโยบายสากล Dante Disparte โดยสัญญาว่าจะทำการแอร์ดรอปปลอมให้กับผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบ
อุปทานของ USDC บน Smart Contract แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
แม้ว่าปริมาณอุปทานจะลดลง แต่การใช้งาน Smart Contract ของ USDC เพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบหกเดือนที่ 42.08% ตามข้อมูลของ Glassnode
USDC Supply on Smart Contract (Source: Glassnode)
หลังจากที่อุปทานของ USDC Smart Contract ลดลงในช่วงปลายปี 2022 ทาง USDC ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก เมื่อ MakerDAO อนุมัติให้ใช้เป็นทุนสำรองหลักให้กับ Stablecoin ดังกล่าว
USDT และ TUSD ตีตื้น
Tether USDT และ TrueUSD (TUSD) กลายเป็นผู้นำท่ามกลางวิกฤตการธนาคารที่ทำให้มูลค่าของ Stablecoin สั่นคลอน
ตามข้อมูลของ DeFiLlama พบว่าในเดือนมีนาคม 2023 อุปทานของ USDT เพิ่มขึ้นเป็น 79,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากประมาณ 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามบันทึกไว้เมื่อต้นเดือน ในช่วงเวลาดังกล่าว ราคาของทั้ง USDT และ TUSD เพิ่มขึ้นมากกว่า 60%
USDT Supply (Source: CoinMarketCap)
ในขณะเดียวกัน ปริมาณอุปทานของ TUSD พุ่งทะยานเกิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ Binance ใช้งานสกุลข้างต้นอย่างหนัก กล่าวคือ ปริมาณอุปทาน ใน Binance สูงถึง 73% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021 ตามรายงานของ Santiment ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน