BeInCrypto - Coinbase (NASDAQ:COIN) กำลังมองหาช่องทางที่จะสร้างแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตใหม่ในต่างประเทศเนื่องจากการตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา
ตามแหล่งข่าวของ Bloomberg เผยว่า Coinbase ได้แจ้งลูกค้าสถาบันเกี่ยวกับความตั้งใจในการจัดตั้งแพลตฟอร์มการซื้อขายใหม่ในต่างประเทศ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เข้มงวดในสหรัฐฯ ทำให้บริษัทคริปโตดำเนินธุรกิจได้ยาก
ชุมชนคริปโตเชื่อว่าสหรัฐฯ จะพลาดการเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมคริปโตเนื่องจากกฎหมายอันเข้มงวด
Coinbase วางแผนที่จะกระจายการลงทุนในต่างประเทศ
Coinbase ต้องการสร้างสถานที่ทางเลือกที่เป็นอิสระจากตลาดหลักของ Coinbase ในความเป็นจริง Emilie Choi ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) กล่าวว่า “การขยายตัวในตลาดระหว่างประเทศจะยังคงเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานของเราต่อไป”
ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันใด ๆ เกี่ยวกับตำแหน่งของแพลตฟอร์มใหม่ แต่ประเทศต่าง ๆ เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฮ่องกง ซึ่งต่างก็แข่งขันกันเพื่อเป็นศูนย์กลางคริปโต โดยประเทศเหล่านี้ล้วนเป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำคริปโต
ก่อนหน้านี้ BeInCrypto รายงานว่า Coinbase ตั้งเป้าที่จะขยายสู่สากลในอีกแปดสัปดาห์ข้างหน้า และจะเริ่มต้นที่สิงคโปร์
Coinbase ระบุในจดหมายของนักลงทุนประจำไตรมาสที่สี่ประจำปี 2022 ว่า “น่าผิดหวังที่เราไม่เห็นหน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องต้อนรับความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการออกกฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา ซึ่งแสดงจุดยืนที่ไม่สนับสนุนคริปโตเคอเรนซี ปัจจัยนี้กลับกลายเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมคริปโตในต่างประเทศแทน”
การปราบปรามบริษัทคริปโตของสหรัฐยังคงดำเนินต่อไป
เนื่องจากธนาคารที่เป็นมิตรกับคริปโต เช่น Silicon Valley Bank, Signature Bank และธนาคาร Silvergate ล้มละลายอุปสรรคใหม่สำหรับธุรกิจ Web3 จึงถูกนำมากล่าวถึงเป็นประเด็นสำคัญ นอกจากนี้ มีรายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลเรียกร้องให้ธนาคารที่ยื่นเอกสารเพื่อประมูลสำหรับ Signature Bank ควร “ยกเลิกบริการคริปโตทั้งหมด ”
ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนกล่าวโทษคริปโตเคอเรนซีว่าเป็นต้นเหตุการล่มสลายของธนาคารต่าง ๆ
จากข้อมูลของผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมคริปโต รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดตัว Operation Choke Point 2.0 เพื่อลดการเข้าถึงธนาคารของบริษัท Web3 ท่าทีต่อต้านคริปโตเคอเรนซีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากการล่มสลายของแพลตฟอร์ม FTX ในเดือนพฤศจิกายน 2022