La Rosa Holdings ปรับปรุงนโยบายการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน

La Rosa Holdings Corp. (NASDAQ:LRHC) บริษัทจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในเนวาดา ได้แก้ไขนโยบายการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน ตามการยื่นแบบฟอร์ม SEC Form 8-K ล่าสุด นโยบายฉบับแก้ไขซึ่งได้รับการรับรองโดยคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ได้กําหนดนิยามคําว่า "Blackout Period" และ "Window Period" ใหม่เพื่อควบคุมการซื้อขายโดยบุคคลภายในของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น

ภายใต้นโยบายใหม่ "Blackout Period" เริ่มต้นที่ตลาดปิดในวันที่ 15 ของเดือนสุดท้ายของแต่ละไตรมาสบัญชี และสิ้นสุดสองวันทําการซื้อขายหลังจากเปิดเผยผลประกอบการทางการเงินของบริษัทต่อสาธารณะและยื่นแบบฟอร์ม 10-Q หรือแบบฟอร์ม 10-K ที่เกี่ยวข้อง "Window Period" เมื่อบุคคลภายในได้รับอนุญาตให้ซื้อขาย จะเริ่มในวันทําการที่สามหลังจากการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทต่อสาธารณะ และสิ้นสุดในวันที่ 14 ตามปฏิทินของเดือนสุดท้ายของไตรมาสบัญชีถัดไป

การย้ายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ La Rosa Holdings เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายในและเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของการรายงานทางการเงิน นโยบายฉบับปรับปรุงนี้คาดว่าจะให้แนวทางที่ชัดเจนสําหรับบุคคลภายในเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท และมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันกิจกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายในที่ผิดกฎหมาย

รายละเอียดของนโยบายการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายในที่แก้ไขเพิ่มเติมและได้ยื่นต่อสํานักงาน ก.ล.ต. และได้เปิดเผยต่อสาธารณะในรูปแบบ Exhibit 99.1 ที่แนบมากับแบบฟอร์ม 8-K การเปลี่ยนแปลงจะมีผลทันที ณ วันที่นํากรมธรรม์มาใช้

นักลงทุนและผู้เฝ้าดูตลาดมักมองว่าการปรับปรุงนโยบายการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายในเป็นความมุ่งมั่นของบริษัทต่อความโปร่งใสและธรรมาภิบาล นโยบายดังกล่าวมีความสําคัญต่อการรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสร้างความมั่นใจในแนวทางปฏิบัติของตลาดที่เป็นธรรม

La Rosa Holdings Corp. ซึ่งมีสํานักงานผู้บริหารหลักตั้งอยู่ในเมือง Celebration รัฐฟลอริดา ดําเนินงานภายในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยให้บริการจัดการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงนโยบายอ้างอิงจากการยื่น SEC ล่าสุดของบริษัท

ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ La Rosa Holdings Corp. ได้ประกาศความตั้งใจที่จะเข้าซื้อกิจการใน Red Door Title ซึ่งเป็น บริษัท ที่ให้บริการเต็มรูปแบบ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะทําให้ La Rosa สามารถให้บริการประกันกรรมสิทธิ์ ซึ่งช่วยเสริมการดําเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ การย้ายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของบริษัทในการจัดหาโซลูชั่นที่ครอบคลุมในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและสร้างแหล่งรายได้เพิ่มเติม

นอกจากนี้ La Rosa Holdings Corp. ยังได้ปฏิบัติตามข้อกําหนดในการจดทะเบียนอย่างต่อเนื่องของ Nasdaq compa Nasdaq firmed การพัฒนานี้ผ่านการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่คุณสมบัติการจดทะเบียนของ Nasdaq ซีอีโอ Joe La Rosa แสดงความพึงพอใจกับความสําเร็จนี้ โดยย้ําถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อการกํากับดูแลกิจการและคุณค่าของผู้ถือหุ้น

การพัฒนาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ La Rosa ในการจัดชั้นบริการที่มีมูลค่าเพิ่มให้กับข้อเสนอและสร้างตัวเองให้เป็นผู้เล่นที่สําคัญในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ แผนการขยายธุรกิจของบริษัทอยู่ท่ามกลางสิ่งที่ซีอีโอ Joe La Rosa อธิบายว่าเป็น "การหยุดชะงักครั้งใหญ่" ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

จากการแก้ไขนโยบายการซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายในล่าสุดของ La Rosa Holdings Corp. การมองบริษัทอย่างใกล้ชิดผ่านเลนส์ของข้อมูลและตัวชี้วัดของ InvestingPro ทําให้นักลงทุนมีบริบทเพิ่มเติม บริษัทซึ่งซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ LRHC กําลังสํารวจตลาดด้วยมูลค่าตลาด 26.18 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงขนาดภายในภาคการจัดการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง La Rosa Holdings มีการเติบโตของรายได้อย่างมีนัยสําคัญ โดยเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ 51.55% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 และการเติบโตของรายได้รายไตรมาสที่โดดเด่นยิ่งขึ้นที่ 116.64% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีตัวเลขการเติบโตเหล่านี้ แต่ความท้าทายในการทํากําไรของบริษัทก็ชัดเจน โดยมีอัตราส่วน P/E ติดลบที่ -0.88 และอัตราส่วน P/E ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 อยู่ที่ -1.99 สิ่งนี้สอดคล้องกับหนึ่งในเคล็ดลับ InvestingPro ที่เน้นว่า La Rosa Holdings ไม่ได้ทํากําไรในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ อัตราส่วนราคาต่อบัญชีของบริษัทค่อนข้างสูงที่ 4.69 ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัทในระดับพรีเมี่ยมเมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชี

InvestingPro Tips ยังเปิดเผยว่า La Rosa Holdings ดําเนินการด้วยหนี้ในระดับปานกลางและไม่จ่ายเงินปันผล ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณาการลงทุนสําหรับผู้ถือหุ้นที่เน้นรายได้ สําหรับนักลงทุนที่ต้องการเจาะลึกถึงสถานะทางการเงินและโอกาสในอนาคตของ La Rosa Holdings InvestingPro ขอเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกและเคล็ดลับเพิ่มเติม ด้วยการใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 นักลงทุนสามารถรับส่วนลดเพิ่มเติม 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro และ Pro+ รายปีหรือรายปักษ์ ให้การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกอันมีค่ามากมาย ขณะนี้มีเคล็ดลับเพิ่มเติม 6 ข้อเกี่ยวกับ InvestingPro สําหรับ La Rosa Holdings ซึ่งสามารถสํารวจได้สําหรับกลยุทธ์การลงทุนที่ครอบคลุม

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน