โดย Gabriel Crossley และ Kevin Yao
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเก็บข้อมูลครั้งแรกเมื่อเกือบสามทศวรรษที่แล้ว เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ทำให้โรงงานและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ต้องปิดทำการ และส่งผลให้มีแรงงานหลายล้านคนต้องตกงาน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ช่วงไตรมาสแรกเมื่อเทียบปีต่อปีทรุดตัวลง 6.8% สูงกว่าผลคาดการณ์ที่คาดไว้ว่า 6.5% และเปลี่ยนทิศทางจากไตรมาสที่สี่ของปี 2019 ที่ขยายตัวขึ้น 6%
ครั้งนี้เป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจครั้งแรกของจีนนับตั้งแต่ปี 1992 ที่ได้มีการเริ่มต้นจดบันทึก GDP รายปี
ทว่าก็ยังพอมีข่าวดีจากผลผลิตโรงงานจีนในเดือนมีนาคมที่หดตัวลงต่ำกว่าคาด ชี้ให้เห็นว่าการลดหย่อนด้านภาษีและสินเชื่อสำหรับบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสนั้นมีส่วนช่วยเยียวยาภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่ต้องปิดตัวลงนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา
ทว่านักวิเคราะห์ชี้ว่าจีนยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นเศรษฐกิจและยับยั้งการตกงานครั้งมหาศาลของตลาดแรงงานจีน
Lu Zhengwei หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Industrial Bank ให้ความคิดเห็นไว้ว่า "GDP ในไตรมาสแรกที่ออกมายังถือว่าเป็นไปตามคาด และแสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจเป็นอัมพาตและชุมชนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์"