โดย Peter Nurse
Investing.com - ดอลลาร์สหรัฐทรุดตัวลงในช่วงครึ่งแรกของฝั่งยุโรปวันนี้และปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปีเมื่อซื้อขายคู่กับสกุลเงินอื่น เนื่องจากการปรับทิศทางการหนุนอัตราเงินเฟ้อของเฟดเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ตลาดตัดสินใจขายการถือครองดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเวลา 2:50 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (0650 GMT) ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.3% เท่ากับ 91.860 จากก่อนหน้านี้ที่แตะระดับต่ำสุดในรอบสองปีที่ 91.773 คู่ GBP/USD ดีดขึ้น 0.3% เท่ากับ 1.3412 ใกล้ระดับที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปี ส่วน EUR/USD ขยับขึ้น 0.4% เท่ากับ 1.1981 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2018
เฟดได้ทำการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อมุ่งเป้าไปยังอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยและการจ้างงานที่สูงขึ้น และจึงหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกสักระยะ
แม้ EUR/USD ได้ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถทะลุระดับ 1.20 ซึ่งเป็นแนวต้านหลักได้ ทั้งนี้เร็ว ๆ นี้จะมีการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตฝั่งยูโรโซน, อัตราการว่างงานเยอรมนี และ อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหากข้อมูลเหล่านี้ออกมาน่าผิดหวังก็อาจทำให้คู่สกุลเงินกลับคืนสู่สมดุลได้
ดังนั้น Goldman Sachs (NYSE:GS) จึงคาดไว้ว่าคู่สกุลเงินจะทะลุระดับ 1.20 ในอีกไม่ช้า
ทางด้านคู่ AUD/USD ดีดขึ้น 0.3% เท่ากับ 0.7399 ใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองปี หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียได้คงอัตราดอกเบี้ยและเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลาสามปีไว้คงเดิมที่ 0.25% ซึ่งเป็นไปตามคาด