Investing.com - ราคาน้ำมันดิบผสมผสานในเอเชีย โดยตัวเลขแท่นขุดเจาะรายสัปดาห์ในสหรัฐฯอาจมีผลต่อทิศทางในระยะสั้นของอุปทาน
ใน New York Mercantile น้ำมันดิบฟิวเจอร์สสำหรับส่งมอบเดือนพฤจิกายน ร่วงลง 0.02% มาอยู่ที่ 50.70 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ตลาด Intercontinental Exchange ของกรุงลอนดอน น้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.07% มาอยู่ที่ 56.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ เนื่องจากข้อมูลขาลงที่แสดงให้เห็นว่าน้ำมันดิบของสหรัฐฯพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ถูกบดบังด้วยความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าโอเปกจะตัดสินใจขยายข้อตกลงเพื่อลดการส่งออกน้ำมัน
รายงานจาก Energy Information Administration (EIA) ระบุว่าปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความหวังนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นในการขยายข้อตกลงในการลดการผลิตน้ำมันของโอเปก
น้ำมันดิบในสหรฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 4.6 ล้านบาร์เรลในสิ้นสุดสัปดาห์วันที่ 15 ก.ย. มากกว่าที่ประเมินไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 3.4 ล้านบาร์เรล นับเป็นสัปดาห์ที่สามที่คลังสินค้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
สต๊อกน้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น้ำมันดิบได้รับการกลั่น ลดลงประมาณ 2.13 ล้านบาร์เรล จากความคาดหมายในการลดลงถึง 2.14 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต๊อกน้ำมันกลั่นลดลง 5.7 ล้านบาร์เรลจากการคาดการณ์ว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล การสะสมสำรองน้ำมันดิบในสหรัฐเกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงเนื่องมาจากพายุฮาร์วี่ ที่ทำให้เกิดการกลั่นน้ำมันเกือบ 1 ใน 4 ของสหรัฐฯต้องปิดตัวลงชั่วคราวในเดือนสิงหาคม ส่งผลกดดันต่ออุปสงค์น้ำมันดิบซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการกลั่นน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ ตามด้วยความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันอิรัก นาย Jabar al-Luaibi กล่าวว่าอิรักและสมาชิกโอเปคอื่นๆ กำลังพิจารณาทางเลือกในข้อตกลงการลดกำลังการผลิต รวมทั้งการขยายข้อตกลงที่จะสิ้นสุดเดือนมีนาคม และพิจารณาถึงการลดกำลังการผลิตมากขึ้นกว่าเดิม
ในเดือนพฤษภาคม โอเปก และสมาชิกที่ไม่ใช่โอเปก ตกลงที่จะขยายการลดการผลิตเป็นระยะเวลาเก้าเดือนจนถึงเดือนมีนาคม ประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว