โดย Ambar Warrick
Investing.com-- ราคาน้ำมันปรับตัวลงเล็กน้อยในวันพุธ แต่อยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อันเป็นสัญญาณว่าอุปสงค์ของสหรัฐปรับตัวดีขึ้นเพื่อชดเชยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ในขณะที่แนวโน้มที่อุปทานของซาอุดิอาระเบียจะลดต่ำลงยังคงหนุนแนวโน้มเชิงบวก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ซื้อขายอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐ ลดลง 0.2% สู่ 93.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 29:14 น. ET (00: 14 GMT)
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน(American Petroleum Institute) แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 5.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ 19 ส.ค. มากกว่าที่คาดการณ์ไว้มากว่าจะมีการเบิกจ่าย 450,000 บาร์เรล
ข้อมูลอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะครบกำหนดในวันพุธนี้ คาดว่าจะมีการเบิกจ่าย 933,000 บาร์เรล น้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐลดลงกว่า 7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 12 สิงหาคม
สินค้าคงคลังที่หดตัว ประกอบกับข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 35 ปีบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันของสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากภาวะซบเซาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ราคาก๊าซที่ลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ดูเหมือนจะเป็นตัวขับเคลื่อนอุปสงค์น้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
แต่ในทางกลับกันข้อมูล PMI ในวันอังคารแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคเอกชนของสหรัฐฯ ทรุดตัวลงสู่ระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 27 เดือน ท่ามกลางแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอีก อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบในปี 2022
ถึงกระนั้น ราคาน้ำมันก็พุ่งขึ้นเกือบ 4% ในวันอังคารหลังจากซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกระบุถึงการปรับลดอุปทานที่มีศักยภาพเพื่อรองรับราคาน้ำมันดิบ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังเกิดขึ้นท่ามกลางรายงานความคืบหน้าในข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งการลงนามดังกล่าวคาดว่าจะยกเลิกการคว่ำบาตรทางตะวันตกหลายครั้งต่อเตหะราน และปล่อยอุปทานออกสู่ตลาดมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของอิหร่านทำให้เกิดความผันผวนในตลาดน้ำมันดิบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้ค้าเกรงว่าอุปทานอาจล้นเหลือจากข้อตกลงนี้