โดย Ambar Warrick
Investing.com – ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างรวดเร็วในวันจันทร์จากรายงานที่ระบุว่าอิหร่านและประเทศตะวันตกใกล้บรรลุข้อตกลงที่จะยกเลิกการคว่ำบาตรอุปทานน้ำมันดิบจากประเทศในเอเชียตะวันตก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตังลงมากกว่า 1% เป็น 89.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ในลอนดอนลดลง 0.5% เป็น 95.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเวลา 20:01 น. ET (0002 GMT)
องค์กรข่าวของกาตาร์ Al Jazeera รายงานเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านกำลัง "ใกล้เข้ามา" ในขณะที่รายงานอื่น ๆ ระบุว่าเตหะรานพร้อมที่จะลดความต้องการให้ถอดชื่อกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามออกจากรายชื่อองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ความต้องการของอิหร่านสำหรับคณะทำงานแล้วเป็นประเด็นสำคัญสำหรับข้อตกลง และเป็นข้อตกลงที่สำคัญที่เป็นอุปสรรคในการเจรจากับสหรัฐฯ แต่มีสหภาพยุโรปเป็นตัวกลางในการหาข้อสรุป
การลงนามในข้อตกลงจะทำให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรธนาคาร 17 แห่งของอิหร่านและ 150 สถาบันทางเศรษฐกิจ Al Jazeera รายงาน เตหะรานจะได้รับอนุญาตให้ส่งออกน้ำมัน 50 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสี่เดือนหลังจากลงนามในข้อตกลง
โดยการเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะทำให้มีการปล่อยน้ำมันมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันของอุปทานออกสู่ตลาดทันที ซึ่งคาดว่าจะส่งผลลบต่อราคาน้ำมันอย่างมาก
แต่อุปทานที่เพิ่มขึ้นนี้อาจกระตุ้นให้เกิดมาตรการจาก OPEC เพื่อควบคุมการผลิต ซึ่งการเก็งกำไรเกี่ยวกับการลดอุปทานได้หนุนราคาน้ำมันเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าจะสิ้นสุดในสัปดาห์ที่ติดลบก็ตาม
ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้ราคาน้ำมันแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเทรดเดอร์เกรงว่าอุปสงค์จะตกต่ำจากภาวะถดถอย สัญญาณของการบีบบังคับทางเศรษฐกิจของผู้นำเข้ารายใหญ่อย่างจีนยังคงเป็นปัญหา โดยเฉพาะสำหรับตลาดน้ำมัน เศรษฐกิจจีน กำลังประสบปัญหาในการรับมือกับสถานการณ์โควิด19 ในปีนี้ อันเนื่องมาจากนโยบายปลอดโควิดที่เข้มงวดของปักกิ่ง
ถึงกระนั้น ข้อมูลสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ให้เห็นว่าอุปสงค์ฟื้นตัวจากพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่การปรับเงื่อนไขทางการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจช่วยระงับการฟื้นตัวดังกล่าวได้