โดย Barani Krishnan
Investing.com -- ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ กล่าวว่า รัสเซียจะให้เกียรติขายพลังงานแก่ลูกค้าทุกราย แม้แต่ผู้ที่ลงโทษมอสโกสำหรับการทำสงครามกับยูเครน
“เราจะยึดมั่นกับข้อตกลงของเราด้านพลังงาน เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เรากำลังทำเช่นนี้” ปูตินกล่าว พร้อมเสริมว่า นั่นรวมถึงการส่งออกไปยัง 'ประเทศที่ไม่เป็นมิตร' ซึ่งได้คว่ำบาตรมอสโกนับตั้งแต่การบุกยูเครนที่เริ่มขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.
รัสเซียเป็นผู้จัดหาน้ำมันดิบประมาณ 10% ของโลกและ 40% ของความต้องการก๊าซของยุโรป สหรัฐฯ เข้มงวดเป็นพิเศษในการต่อต้านเครมลิน โดยสั่งห้ามการนำเข้าพลังงานของรัสเซียทั้งหมด
ส่วนประเทศที่เหลือทางตะวันตก ซึ่งประกอบด้วยยุโรป อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลียที่ได้คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหลายครั้งต่อรัสเซีย แต่ก็เลี่ยงมาตรการต่อต้านสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงานของประเทศเพราะประเทศตะวันตกเหล่านี้ยังคงต้องการพลังงานจากรัสเซียอยู่
น้ำมันดิบเบรนท์ ที่เป็นดัชนีราคาน้ำมันโลก ร่วงลง 1.81 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ที่ 109.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบสนองต่อคำพูดของปูติน
น้ำมันดิบ WTI ของสหรัฯฐ ปิดที่ 2.68 หรือ 2.5% ที่ 106.02 ดอลลาร์
นอกเหนือจากคำพูดของปูตินแล้ว น้ำมันดิบเบรนท์ยังได้รับแรงกดดันจากการขึ้น 32% ของมาร์จิ้นการซื้อขายที่กำหนดโดยผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน ICE (NYSE:ICE)
ความต้องการมาร์จิ้นที่สูงขึ้นนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางหนึ่งในสัปดาห์ที่ราคาน้ำมันผันผวนที่สุด โดยน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวมากถึง 33 ดอลลาร์ระหว่างระดับสูงสุดและต่ำสุดของหนึ่งวันหลังจากช่วง 20 ดอลลาร์ของสัปดาห์ที่แล้ว
John Kilduff หุ้นส่วนของกองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านพลังงานในนิวยอร์ก Again Capital กล่าวว่า "อัตรากำไรจากการซื้อขายที่สูงขึ้นจะล้างกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่มีเลเวอเรจมากที่สุดในเกมออกจากการเข้าถึงน้ำมันดิบเบรนท์ “ผลกระทบสุทธิมักจะเป็นตลาดที่มีความผันผวนน้อยกว่าและราคาที่ต่ำกว่า”
ราคาน้ำมันที่ร่วงลงในวันพฤหัสบดีเกิดขึ้นจากการร่วงลง 13% ของเซสชั่นก่อนหน้า ซึ่งแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ที่ตลาดน้ำมันดิบทั่วโลกพังทลายจากการระบาดของโคโรนาไวรัส
ความวุ่นวายในวันพุธมีขึ้นหลังจากยูเซฟ อัล โอไตบา เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำวอชิงตันกล่าวว่าผู้ผลิตพลังงานอันดับสองในอ่าวไทย “สนับสนุนการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น” เพื่อช่วยเพิ่มอุปทานและลดราคาสำหรับประเทศบริโภคที่ประสบปัญหาตลาดน้ำมันดิบที่ตึงตัวและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
อิห์ซาน อับดุล-จับบาร์ อิสมาอิล รัฐมนตรีน้ำมันของอิรักกล่าวว่าเขาเห็นชอบที่จะเพิ่มการผลิตหากนั่นเป็นความประสงค์ของ OPEC+ ซึ่งเป็นพันธมิตรของ 23 ประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่รวมกลุ่มเดิมของ OPEC 13 ที่นำโดยซาอุดีอาระเบียกับอีก 10 แห่งที่นำโดยรัสเซีย
อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสบดีนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เพิกถอนคำกล่าวของเอกอัครราชทูตโอไตบา โดยกล่าวว่าความมุ่งมั่นที่มีต่อกลุ่ม OPEC+ จะไม่เปลี่ยนแปลง และจะไม่มีการเคลื่อนไหวฝ่ายเดียวในการเพิ่มปริมาณน้ำมัน