โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันลดลงในเช้าวันพุธในเอเชีย หักล้างจากผลกำไรที่ทำได้จากช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนทั้งหลายยังคงประเมินผลกระทบของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีต่อความต้องการเชื้อเพลิง ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพของวัคซีนในปัจจุบัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.33% สู่ระดับ 75.19 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 22:18 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:18 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.31% สู่ระดับ 71.83 ดอลลาร์
"หลังจากที่โดนเทขายอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากมีความหวาดกลัวเกี่ยวกับผลกระทบของโอมิครอน มีการปรับฐานใหม่ในช่วงสัปดาห์นี้ หลังมีข่าวว่าสายพันธุ์โอมิครอนนั้นมีอาการไม่รุนแรง" ฮิโรยูกิ คิคุคาวะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ จาก นิสสัน (OTC:NSANY) กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส
“แต่นักลงทุนยังไม่มั่นใจอย่างเต็มที่เสียทีเดียว และกำลังรอดูจนกว่าพวกเขาจะสามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากโอมิครอนได้” คิคุคาวะ กล่าวเสริม
ด้าน อเล็กซ์ ซิกัล หัวหน้าสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกา กล่าวเมื่อวันอังคารว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้นกันได้บางส่วนจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวนสองเข็มจากวัคซีนที่พัฒนาโดย Pfizer Inc. (NYSE:PFE)/BioNTech SE (F:22UAy) ในขณะเดียวกัน GlaxoSmithKline PLC (LON:GSK) กล่าวเมื่อวันอังคารว่า sotrovimab ซึ่งเป็นแนวทางการรักษาโควิด-19 โดยใช้แอนติบอดีที่พัฒนาร่วมกับ Vir Biotechnology (NASDAQ:VIR) มีประสิทธิภาพในการรับมือกับการกลายพันธุ์ทั้งหมดของสายพันธุ์โอมิครอน
บรรดานักลงทุนยังคงติดตามการเจรจาระหว่างอิหร่าน และมหาอำนาจของโลกเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ขณะที่การเจรจาทางอ้อมระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านเริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ต้องหยุดชะงักไปเมื่อวันศุกร์ และมีกำหนดจะกลับมาดำเนินต่อในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ด้านโฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลกลางกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เยอรมนีเรียกร้องให้อิหร่านนำเสนอข้อเสนอที่เป็นไปได้จริงในการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของตน
นอกจากการเจรจาดังกล่าวแล้ว นักลงทุนต่างยังคงติดตามข่าวความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอีกด้วย คิคุคาวะ กล่าว จากการรายงานของรอยเตอร์สระบุว่า สหรัฐฯ ได้ทำความเข้าใจกับเยอรมนีเกี่ยวกับการปิดท่อส่ง ก๊าซธรรมชาติ ของนอร์ดสตรีม 2 หากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐฯจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ามีการดึงน้ำมันออกจากคลัง 3.089 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. การคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com คาดการณ์ว่าจะมีการสะสมที่ 2.093 ล้านบาร์เรล ในขณะที่มีการรายงานการดึงน้ำมันออกมาใช้ 747,000 บาร์เรลในระหว่างสัปดาห์ก่อน
ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสำนักงานข้อมูลด้านพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา ที่มีกำหนดมาถึงภายในวันนี้