โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเช้าวันอังคารในเอเชีย ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการร่วงของสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนยังคงเดิมพันว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะหยุดเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบชั่วคราว เนื่องจากความไม่แน่นอนของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.64% เป็น 73.69 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:28 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (4:28 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.03% เป็น 70.67 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันร่วงลงราว 12% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากกลัวว่าไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจะนำไปสู่การล็อกดาวน์ และความต้องการเชื้อเพลิงลดลง
องค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าโอไมครอน มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อและจัดว่าเป็น "ตัวแปรที่น่าเป็นห่วง" หลายประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และออสเตรเลีย รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และประเทศอื่น ๆ ได้ออกกฎห้ามการเดินทางแล้ว
ด้วยแนวโน้มความต้องการเชื้อเพลิงไม่ชัดเจนเนื่องจากโอไมครอน นักลงทุนคาดหวังว่าองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) จะหยุดแผนการเพิ่มอุปทาน 400,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนมกราคม พันธมิตรมีกำหนดจะประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับอุปทานในวันที่ 2 ธันวาคม
วิเวก ดาร์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Commonwealth Bank กล่าวในหมายเหตุว่า “เราคิดว่ากลุ่มพันธมิตรจะมุ่งหยุดการเพิ่มผลผลิตชั่วคราวโดยคำนึงถึงสายพันธุ์โอไมครอน และการปล่อยน้ำมันในคลังออกมาใช้โดยผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่”
OPEC+ ได้พิจารณาแผนใหม่แล้ว หลังจากที่สหรัฐฯ และผู้บริโภครายใหญ่อื่นๆ ประกาศปล่อยตัวจากน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ที่ร่วมมือกันปล่อยน้อยกว่าที่คาดในช่วงสัปดาห์ก่อน
เอ็ดเวิร์ด โมย่า นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ภายหลังการเปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ระดับโลกและการประกาศของหลายสิบประเทศที่จำกัดการเดินทางเข้าและออกจากแอฟริกาใต้และประเทศเพื่อนบ้าน โอเปกและพันธมิตรสามารถให้เหตุผลได้อย่างง่ายดายในการหยุดการผลิตหรือแม้กระทั่งลดการผลิตลงเล็กน้อย”
มหาอำนาจโลกและอิหร่านกลับมาเจรจาเรื่องการรื้อฟื้นสนธิสัญญานิวเคลียร์ปี 2558 ต่อ พร้อมความคิดเห็นที่สดใสจากนักการทูต ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด
ขณะนี้นักลงทุนต่างรอคอยการตัวเลขน้ำมันดิบของสหรัฐจากสถาบัน American Petroleum Institute ซึ่งจะถึงกำหนดส่งในช่วงถัดไปของวัน