รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

ราคาน้ำมันขึ้นอีก ผู้คนกลับมาท่องเที่ยว ความต้องการเชื้อเพลิงพุ่ง

เผยแพร่ 10/11/2564 12:24
อัพเดท 10/11/2564 13:42
© Reuters
DX
-
LCO
-
CL
-

โดย Gina Lee 

Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันพุธที่เอเชีย โดยดีดตัวต่อเนื่องหลังจากข้อมูลเผยว่ามีการดึงน้ำมันคงคลังออกมาใช้เกินความคาดหมาย ความต้องการเดินทางก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ผ่อนคลาย ทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ พุ่งขึ้น 0.39% สู่ 85.11 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:18 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (5:18 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.06% เป็น 84.20 ดอลลาร์

ในวันอังคาร ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (API) แสดงให้เห็นว่ามีการดึงน้ำมันออกจากคลัง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน การคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการน้ำมันสะสมในคลัง 1.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีการเพิ่มขึ้นจริง 3.594 ล้านบาร์เรล จากรายงานที่ได้รับรายงานในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า

ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอ ข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจากสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐ (EIA) ที่จะมาถึงภายในวันนี้

“อุปทานตึงตัว องค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันยึดมั่นในจุดยืนของตน” ฟิลลิป ฟิวเจอร์ส ผู้จัดการอาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์ Avtar Sandu ในสิงคโปร์กล่าวกับรอยเตอร์ส โดยอ้างอิงถึงข้อตกลงล่าสุดระหว่าง OPEC และพันธมิตร (OPEC+) โดยจะรักษาระดับการผลิตที่ 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม

การเติบโตของการเดินทางทางอากาศยังทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย และ “เรายังเห็นตลาดกระทิงอยู่ ซึ่งตอนนี้มันอาจจะหยุดพัก แต่ (ถ้ามี) ปัจจัยเสริมเข้ามานิดหน่อย มันอาจจะดำเดินต่อไป” แซนดูกล่าว

รัสเซล ฮาร์ดี ซีอีโอของ Vitol Group ยืนยันว่าตลาดตึงตัว โดยกล่าวเมื่อวันอังคารว่าความต้องการน้ำมันกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 และจะมีความต้องการเกินคาดในไตรมาสแรกของปี 2565

“มีความเป็นไปได้ที่น้ำมันจะพุ่งขึ้นถึง 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล” ฮาร์ดีกล่าวกับรอยเตอร์สในการประชุมสินค้าโภคภัณฑ์

ในขณะเดียวกัน แนวโน้มระยะสั้นจาก EIA กล่าวว่าราคาน้ำมันเบนซินจะลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สิ่งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญว่าประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ตัดสินใจที่จะปล่อยน้ำมันจากแหล่งสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์ (SPR) หรือไม่ เนื่องจากราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

“รายงาน EIA... ทำให้เกิดความกังวลว่าสหรัฐฯ จะปล่อยน้ำมันจากน้ำมันสำรองทางยุทธ์ศาสตร์ (SPR)” วิเวก ดาร์ นักวิเคราะห์จาก Commonwealth Bank กล่าวในหมายเหตุ

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย