ราคาน้ำมันแผ่วลงเล็กน้อย ตัวเลขผู้ว่างงานพุ่ง

โดย Peter Nurse

Investing.com -- ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังตึงเครียดจากวิกฤติพลังงาน

ในเวลา 9:25 น. ET (1325 GMT), ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ลดลง 1.7% มาอยู่ที่ 73.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันเบรนท์ ลดลง 1.5% ที่ 76.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า RBOB น้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง 1.3% มาอยู่ที่ 2.1460 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

การขอรับสวัสดิการว่างงานของรัฐสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน โดย ผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้นเป็น 362,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าอาจส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน

รายงานยืนยันว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ ของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นที่อัตรา 6.7% ต่อปีในไตรมาสที่สอง ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 6.6% เล็กน้อย

ข้อมูลวันพฤหัสก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมโรงงานของจีนหดตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกันยายน โดย PMI ภาคการผลิต ของจีนอยู่ที่ 49.6 เทียบกับ 50.1 ในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าระดับ 50 จุด ซึ่งแสดงถึงการขยายตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 

จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้บริโภครายใหญ่อันดับสองรองจากสหรัฐอเมริกา

เพิ่มเติมข่าวเชิงลบเข้าไปอีกในช่วงนี้คือตัวเลขน้ำมันคงคลังของสหรัฐอย่างเป็นทางการที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด เนื่องจากการผลิตในอ่าวเม็กซิโกส่วนใหญ่กลับสู่ระดับก่อนที่พายุเฮอริเคนไอดาจะถล่มในเดือนที่ผ่านมา

คลังน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลจากการรายงานของ สำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (U.S. Energy Information Administration-EIA) ที่เปิดเผยในวันพุธ เทียบกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

น้ำมันดิบมีแนวโน้มที่จะจบเดือนที่ดี ท่ามกลางความคาดหวังว่าตลาดจะยังคงขาดดุลอุปทานอยู่

คาดว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะต่ำกว่าอุปสงค์ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม และลดลง 900,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนถัดไป ตามเอกสารของสำนักเลขาธิการ OPEC ที่ตรวจสอบโดยคณะกรรมการด้านเทคนิคร่วมของกลุ่ม

ประเด็นนี้จะกลายเป็นส่วนสำคัญของการอภิปราย เมื่อองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในนาม OPEC+ จะประชุมกันในสัปดาห์หน้า

“กลุ่ม OPEC+ ยังคงระแวดระวัง อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูกันต่อไปว่าพวกเขาจะใช้มาตรการเดิมต่อไปหรือไม่ หากการเรียกร้องให้เพิ่มผลผลิตในจังหวะที่เร็วขึ้น” นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวในหมายเหตุ