รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ทองคำชะงักอยู่ที่ $1,700, ได้ดอลลาร์หนุนไว้ แต่ยังย่ำแย่ตลอดเดือนกันยายน

เผยแพร่ 28/09/2564 01:54
© Reuters

โดย Barani Krishnan

Investing.com - ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ระดับกลางที่ $1,700 ในวันจันทร์ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยจะช่วยหนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากช่วงเวลาที่ย่ำแย่ตลอดเดือนกันยายน

ในอัตราปัจจุบัน ทองคำมีแนวโน้มที่จะสิ้นสุดเดือนลดลง 3.7% ซึ่งจะเป็นการปิดเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยลดลง 7% ในเดือนมิถุนายน แต่ว่า หากเดิมพันกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ โชคชะตาของทองคำอาจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 30 เซนต์หรือ 0.02% ที่ 1,752 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในตลาด Comex ของนิวยอร์ก

“ทองคำกำลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากเจอกับแนวรับอีกครั้งที่ 1,740 ดอลลาร์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว” เครก เออแลม นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าว “การที่เฟดยืนกรานว่าการปรับลดสินทรัพย์ยังคงเป็นเป้าหมายในปีนี้ และยังมีอีกสองสามจุดที่บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้าอาจกระทบราคาทองคำอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และแนวโน้มดังกล่าวยังคงท้าทาย หากผู้กำหนดนโยบายไม่เปลี่ยนทิศทาง”

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด มีกำหนดจะอัปเดตวุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายล่าสุดของธนาคารกลาง และวิธีที่พวกเขาจะช่วยป้องกันและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ที่มีอายุใกล้ถึง 2 ปี

ในการแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายของเฟดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พาวเวลล์แนะนำว่าช่วงกลางปี ​​2565 เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการลดซื้อพันธบัตรรายเดือนของธนาคารกลาง

สิ่งที่เรียกว่าแผน dot-plot ของเฟด ยังบ่งชี้ให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังถูกจำกัดที่ใกล้ศูนย์ตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19 

คำให้การต่อวุฒิสภาของพาวเวลล์ในวันอังคารอาจนำไปสู่การตรวจสอบเป้าหมายเหล่านี้อีกครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่เขาเตรียมไว้

คำถามว่าเมื่อใดที่เฟดควรจะลดมาตรการกระตุ้นและเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ได้มีการถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจขัดแย้งกับการฟื้นตัวของโควิดสายพันธุ์เดลต้า

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดและนโยบายช่วยเหลือด้านการเงินอื่น ๆ กลายเป็นแพะรับบาปสำหรับแรงกดดันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นในสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางเองได้ใช้เงินไปประมาณ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19

นอกจากการใช้จ่ายของธนาคารกลางแล้ว ความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางสำหรับการระบาดใหญ่ ซึ่งเริ่มภายใต้การบริหารของทรัมป์ มีมูลค่าสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์จนถึงปัจจุบัน และฝ่ายบริหารของไบเดน กำลังขอให้รัฐสภาอนุมัติอีกเกือบ 4 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับแผน "ฟื้นฟูประเทศ"

หลังจากที่ลดลง 3.5% ในปี 2020 จากการปิดตัวของธุรกิจอันเนื่องมาจากโควิด -19 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ โดยขยายตัว 6.5% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเฟด

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของเฟดคืออัตราเงินเฟ้อที่ล้นหลามและตลาดจ้างงานที่มีผลงานไม่ดี

มาตรวัดของเฟดสำหรับอัตราเงินเฟ้อ - ดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลหลัก ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน(เนื่องจากเป็นตัวแปรที่ผันผวน) - เพิ่มขึ้น 3.6% ในปีจนถึงเดือนกรกฎาคม สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2534 ดัชนี PCE รวมถึงพลังงานและอาหารเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี 

เป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดคือ 2% ต่อปี

ชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ธนาคารกลางควรกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ไม่ได้รับการสนับสนุน มากกว่าไปสร้างอัตราเงินเฟ้อที่สม่ำเสมอในปีต่อ ๆ มามากกว่าแรงกดดันด้านราคาในระยะสั้นในปัจจุบัน

อีแวนส์ กล่าวว่า “ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่เราไม่สามารถสร้างอัตราเงินเฟ้อได้เพียงพอในปี 2566 และ 2567”

อีแวนส์เป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดที่มักจะสนับสนุนบบผ่อนคลายทางการเงินเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโต โดยบางครั้งก็ต้องแลกกับเงินเฟ้อ

จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์ก กล่าวเมื่อวันจันทร์ในอีกเวทีว่า เขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มสูงกว่า 2% จะลดลงในปีหน้า วิลเลียมส์ยังกล่าวด้วยว่าเขาคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตระหว่าง 5.5% ถึง 6% ในปีนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย