รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

พลังงานและโลหะมีค่า - วิเคราะห์ตลาดพลังงานและทองคำประจำสัปดาห์

เผยแพร่ 26/09/2564 16:58
อัพเดท 27/09/2564 09:04
© Reuters.

© Reuters.

โดย Barani Krishnan

Investing.com - ไม่ว่าราคาพลังงานจะสูงขึ้นแค่ไหนในอีกสามเดือนข้างหน้า สิ่งสำคัญที่ควรรู้คืออัตราเงินเฟ้อจะไม่ดีขึ้นสำหรับอเมริกาหรือส่วนใดของโลก

ยกเว้นในส่วนของความต้องการ หากลองตั้งสมมติฐานดูว่า อุปสงค์ของคน ๆ หนึ่งจะสามารถจ่ายได้เท่าที่คน ๆ หนึ่งสามารถจ่ายได้ อุปสงค์อาจหายไปในที่สุด หากราคาน้ำมันและราคา ก๊าซธรรมชาติ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ใครก็ตามที่ติดตามสินค้าโภคภัณฑ์มานานพอจะทราบคำกล่าวที่ว่า “การแก้ราคาสูงคือทำให้ราคาสูง”

ทฤษฎีนี้มีพื้นฐานอยู่บนเศรษฐศาสตร์ 101 เว้นเสียแต่จะพูดถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย สินค้าโภคภัณฑ์ไม่สามารถอยู่เหนือกฏความสามารถในการจ่ายได้

แน่นอนว่าสามารถโต้แย้งได้ว่าหากไม่มีก๊าซหรือน้ำมันเพื่อให้ความร้อนแก่บ้านในช่วงพายุฤดูหนาวที่รุนแรงเช่น พายุเท็กซัสที่เกิขึ้นในปีนี้ ที่เป็นสาเหตุให้ผู้คนเสียชีวิตจำนวนมากในปีนี้

ในทำนองเดียวกัน ผู้คนอย่างน้อย 25,000 คนเสียชีวิตทั่วโลกตามการประมาณการของสหประชาชาติ จากความหิวโหยที่เกิดจากความอดอยาก และการขาดแคลนอาหาร/ธัญพืชอื่น ๆ 

ในฐานะมนุษย์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเมินเฉยต่อพลังงานและสินค้าเกษตรออกจากชีวิตของเรา ไม่ว่ามันจะมีราคาแพงแค่ไหนก็ตาม

ทว่า Leigh Drogen ผู้จัดการกองทุนควอนตัม เตือนเราในบทความเมื่อ 10 ปีที่แล้วว่าเราจะต้องปรับกฎในการดำรงอยู่ของมนุษย์ใหม่

เมื่อราคาน้ำมันแพงเกินไป หรือราคาอาหารพุ่งทะลุเพดาน “เราขับรถน้อยลงหรือไม่? เรากินน้อยลง? หรือกรณีที่เศร้าที่สุด ไม่กินเลย?” Drogen กล่าว

แม้ว่าการใช้ฮีตเตอร์จะช่วยได้ แต่การห่มผ้าหนา ๆ ก็ช่วยได้เช่นกัน

“มนุษย์มีความยืดหยุ่นเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตที่เกิดจากการขาดแคลนทรัพยากร” Drogen กล่าวเสริม “การปรับตัวและเอาตัวรอด เป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ มันคือสัญชาตญาณพื้นฐานขององค์กรด้วย”

แม้ว่าบทความนั้นอาจจะเขียนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ก็ใช้ได้กับโลกที่มีโควิดในปัจจุบัน นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ทำในช่วย 18 เดือนที่ผ่านมาไม่ใช่หรือ? เราไม่ได้ขับรถน้อยลงและกินน้อยลงนี่นา?

นายจ้างจำนวนมากยังคงมีความยืดหยุ่นสูงในการให้ทำงานที่บ้าน ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า เราสามารถใช้ชีวิตต่อได้ตามเดิม การยื่นรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ นั้นสูงกว่า 300,000 รายทุกสัปดาห์ แต่กระนั้นเราก็ยังพบปัญหากับนายจ้างที่หาคนมาทำงานไม่ได้

แม้ว่าการระบาดใหญ่ครั้งหนึ่งในรอบศตวรรษออกมาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและพฤติกรรมการทำงาน แต่เราไม่จำเป็นต้องมีผู้ติดเชื้อใหม่หลายล้านรายต่อวันเพื่อยืนยันว่าพวกเขาต้องการทำงานจากที่บ้าน 

ไม่เชื่อฉัน? ลองถาม OPEC ดูสิ

ในช่วงที่มีการระบาดของโควิดสูงสุด กลุ่มพันธมิตรน้ำมันได้เปลี่ยนเกมจากการประชุมปีละสองครั้งเป็นการประชุม Zoom ทุกเดือน เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์เปลี่ยนกลยุทธ์ในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าการระบาดของไวรัสอยู่ภายใต้การควบคุมแล้วในขณะนี้ และ OPEC สามารถจัดประชุมอย่างน้อยทุกไตรมาสที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเวียนนา แต่กลุ่มพันธมิตรก็ไม่เสี่ยง พวกเขายังคงประชุมกันแทบทุกเดือน เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับตลาดที่ผันผวน

ผู้บริโภคสามารถทำแบบเดียวกันได้เช่นกัน โดยยืนกรานว่าพวกเขาต้องการทำงานจากที่บ้านและขับรถให้น้อยลงหรือขับรถเมื่อจำเป็นเท่านั้น เนื่องจากราคาน้ำมันเฉลี่ยของปั๊มน้ำมันของสหรัฐฯ แตะ 3.19 ดอลลาร์ต่อแกลลอน เพิ่มขึ้นจาก 2.18 ดอลลาร์ในปีก่อนหน้า เราสามารถโต้แย้งได้ว่าการระบาดที่ทำให้ราคาน้ำมันต่ำเพียง 1 ดอลลาร์นั้นน้อยเกินไปสำหรับบริษัทน้ำมันที่จะอยู่รอดได้ หลายคนยังจำราคาเหนือ 4 ดอลลาร์กับวิกฤตการเงินเมื่อราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงถึง 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะนี้น้ำมันเบรนท์อยู่ใต้ 80 ดอลลาร์และผู้บริโภคยอมจ่ายได้มากขึ้น ตลาดกระทิงน้ำมันไม่เห็นด้วย

ปัญหาของเรื่องนี้คืออุปทาน การพุ่งขึ้นของราคาที่ตามมานั้นล้วนมีสาเหตุมาจากตัวมันเอง สิ่งที่ผู้บริโภคทนได้เมื่อ 13 ปีที่แล้วอาจทนไม่ได้แล้วในวันนี้ ที่เงินเฟ้อโดนบีบให้ปรับตัวขึ้นทั้งซ้ายขวา

มีตัวเร่งปฏิกิริยาหลายอย่างสำหรับสถานการณ์ในตลาดน้ำมันในปัจจุบัน อย่างแรกคือพายุเฮอริเคนไอดา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าผลกระทบจะอยู่ยาวจนถึงตอนนี้

ณ วันพฤหัสบดี น้ำมัน 294,414 บาร์เรล หรือ 16.2% ของการผลิตในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ยังคงปิดทำการ ตามการรายงานจากสำนักบังคับใช้ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม 

แน่นอนว่าก๊าซธรรมชาติเป็นตัวขับเคลื่อนหลักอีกตัวสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในน้ำมัน ณ วันศุกร์ ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ในปีเดียวกัน จุดสูงสุดของเดือนนี้อยู่ที่ 5.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ mmBtu ต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ที่ 6.49 ดอลลาร์

มีการพูดคุยกันว่าราคาก๊าซธรรมชาติอาจสูงถึง 6 ดอลลาร์ต่อ mmBtu หรือมากกว่านั้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หากเป็นกรณีนี้ และราคาน้ำมันที่ปั๊มจะสูงขึ้นไปอีก อาจเป็นเพียงตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคเริ่มตอบสนองในลักษณะที่ไม่คาดคิด

ตลาดน้ำมัน & สรุปราคา

ราคาน้ำมันดิบ WTI ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับน้ำมันของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 68 เซนต์หรือ 0.9% ที่ 73.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำหรับสัปดาห์ WTI เพิ่มขึ้น 2.8%

น้ำมันดิบที่ซื้อขายในลอนดอน น้ำมันเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 84 เซนต์หรือ 1.1% ที่ 78.09 ดอลลาร์ สำหรับสัปดาห์นี้ เบรนท์บวก 3.7%

เป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกันของน้ำมันดับ WTI ที่อยู่ในแดนบวก และอันดับที่สี่ในห้าสัปดาห์สำหรับ น้ำมันเบรนท์ ซึ่งทั้งคู่เพิ่มขึ้นประมาณ 50% ต่อปี

ก่อนหน้านี้น้ำมันดิบ WTI ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่ 74.27 ดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 ขณะที่เบรนท์แตะระดับ 78.24 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกัน

ตลาดทองคำ & บทสรุปราคา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำของสหรัฐ ตกลง $1.90 หรือ 0.1% ที่ 1,751.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในตลาด Comex ของนิวยอร์ก

แม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างจะทรงตัว อันที่จริงแล้วราคาสูงขึ้น 30 เซนต์จากวันศุกร์ที่แล้ว

แต่สำหรับผู้ที่ติดตามตลาดทองคำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนระยะยาวขาดทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าตามการคาดการณ์ในแง่ดีในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา การเปรียบเทียบรายสัปดาห์ที่ถูกต้องควรเทียบกับวันพุธที่แล้ว

นั่นคือวันที่ทองคำปรับตัวลง 2% มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม อัตราผลตอบแทนพันธบัตร พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และค่าเงิน ดอลลาร์ ปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับการบอกใบ้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงสำหรับระยะยาว

“ทองคำกำลังต่อสู้กับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลที่พุ่งสูงขึ้นหลังการประชุมของเฟด” เอ็ด โมยา นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าว

“ทองคำอยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความผันผวนจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นโดยมีความเสี่ยงไปในทางลบ สถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐดีขึ้นเรื่อย ๆ  โดยจำนวนผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนมีนาคม”

โมยา กล่าวเสริมว่าการ Long ทองคำอาจมีปัญหาอีกหาก Evergrande ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีน (HK:3333) ซึ่งเขย่าตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยวิกฤตหนี้ สามารถหลีกเลี่ยงการกระจายความเสียหายได้ “หากมีการล่มสลายของ Evergrande ในช่วงสุดสัปดาห์ ทองคำอาจไปทดสอบที่ระดับ 1,700 ดอลลาร์”

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวในช่วงท้ายของการประชุมนโยบายรายเดือนของธนาคารกลางเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยย้ำคำกล่าวของเขาว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% ต่อปี เนื่องจากต้นทุนการทำธุรกิจที่สูงขึ้นในระบบเศรษฐกิจที่มีข้อจำกัดจากโรคระบาด

ตลาดได้แสดงให้เห็นอย่างสม่ำเสมอว่ามีความเชื่อมั่นเพียงเล็กน้อยที่เฟดจะสามารถยับยั้งอัตราเงินเฟ้อและส่งผลตอบแทนพันธบัตรไปสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปีตั้งแต่สิ้นปี 2020  ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน หรือที่นักลงทุนใช้เป็นทรัพย์สินปลอดภัย สุดท้ายกลายเป็นเหยื่อรายสำคัญของการปรับขึ้นผลตอบแทน

ปฏิทินตลาดพลังงาน 

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน

Cushing ประมาณการสินค้าคงคลังน้ำมันดิบ(เอกชน)

วันอังคารที่ 28 กันยายน

American Petroleum Institute รายงานคลังน้ำมันประจำสัปดาห์

วันพุธที่ 29 กันยายน

รายงาน EIA รายสัปดาห์เกี่ยวกับ น้ำมันดิบคงคลัง

รายงาน EIA ประจำสัปดาห์ น้ำมันแก๊ซคงคลัง

รายงาน EIA รายสัปดาห์เกี่ยวกับ สินค้าคงคลังน้ำมันกลั่น

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน

รายงาน EIA ประจำสัปดาห์ สินค้าคงคลังน้ำมันก๊าซ

วันศุกร์ที่ 1 ต.ค

แบบสำรวจรายสัปดาห์ของ Baker Hughes ใน แท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐ

Disclaimer: บารานี ใช้มุมมองภายนอกที่รวบรวมด้วยตัวเองเพื่อนำมาวิเคราะห์ตลาดในบทความของเขา เพื่อความเป็นกลาง บางครั้งเขาเสนอมุมมองที่อาจไม่ตรงกับตัวแปรของตลาด บารานีไม่ได้ถือครองสินค้าโภคภัณฑ์และหลักทรัพย์ที่เขียนในบทความนี้


ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย