โดย Detchana.K
Investing.com - บมจ.ไทยออยล์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลง หลังจากเฮอริเคนลอร่าเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่รัฐหลุยเซียนาและเท็กซัสในสหรัฐฯ โดยไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อแหล่งผลิตน้ำมันดิบและสาธารณูปโภคด้านพลังงานของสหรัฐฯ รวมไปถึงโรงกลั่นน้ำมัน แม้จะสร้างความเสียหายต่ออาคารหลายหลัง และทำให้ประชาชนกว่า 650,000 คน ไม่มีไฟฟ้าใช้ก็ตาม
สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ที่หดตัวและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จะยังคงกดดันความต้องการใช้น้ำมันของโลก
ด้าน Baker Hughes เปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 28 ส.ค. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 254 แท่น โดยแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับลดลง 3 แท่น สู่ระดับ 180 แท่น ขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 72 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ ทยอยกลับมาเปิดดำเนินการผลิตอีกครั้ง หลังพายุเฮอริเคนลอร่าไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก อีกทั้งตลาดกังวลจีนอาจส่งออกน้ำมันเบนซินมากขึ้นในเดือน ส.ค. 63 ส่วนน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้ที่อ่อนแอ ทั้งในตะวันออกกลางและเอเชีย ประกอบกับปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลทั่วโลกที่อยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยกดดัน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI บวก 15 เซนต์ อยู่ที่ 43.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 9.07 น.