Investing.com - ราคาน้ำมันทรงตัวในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากปรับตัวขึ้นอย่างมากในวันก่อนหน้า เนื่องจากอิสราเอลขู่จะโจมตีเลบานอน หากการหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม แรงขับเคลื่อนของราคาน้ำมันก็ชะลอตัวลงหลังข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบในสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด บรรยากาศการลงทุนก็ยังคงมีความระมัดระวังก่อนการประชุม OPEC+ ในวันพฤหัสบดี ซึ่งคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่ากลุ่มจะเลื่อนแผนการเพิ่มการผลิตออกไป
แต่ถึงกระนั้น ราคาน้ำมันก็ยังคงมีค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงอยู่บ้าง เนื่องจากอิสราเอลและฮิซบุลเลาะห์ยังคงละเมิดข้อสัญญาของการหยุดยิงที่เพิ่งประกาศไม่นาน ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ยังคงสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ขยับลง 0.1% เป็น 73.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ขยับลง 0.1% เป็น 69.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 07:50 น. (GMT+7) โดยทั้งสองสัญญาปรับตัวขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร
จับตาความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-เลบานอนท่ามกลางการละเมิดการหยุดยิง
ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลขู่ว่าจะโจมตีรัฐเลบานอนหากการหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ล้มเหลว
การขู่ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่อิสราเอลและฮิซบุลเลาะห์ยังคงโจมตีตอบโต้กัน แม้จะมีข้อตกลงการหยุดยิงที่ตอบตกลงกันไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
Israel Katz รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ขู่ว่าจะให้เลบานอนเป็นผู้รับผิดชอบหากไม่สามารถปลดอาวุธกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ได้
การโจมตีและแถลงการณ์ในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าการหยุดยิงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอาจไม่ยั่งยืน ซึ่งอาจเพิ่มความตึงเครียดในตะวันออกกลางและรักษาค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงของน้ำมันไว้
สินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาด
ข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน แสดงให้เห็นว่าน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ของวันที่ 29 พฤศจิกายน เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
ข้อมูลดังกล่าวได้เพิ่มความกังวลว่าความต้องการในประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกอาจลดลง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
ข้อมูลจาก API มักจะประกาศตัวเลขที่ใกล้เคียงกับข้อมูล สินค้าคงคลังอย่างเป็นทางการ ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดการณ์จะเผยแพร่ในวันนี้ หากมีสัญญาณว่าน้ำมันคงคลังในสหรัฐเพิ่มขึ้นมันก็อาจชี้ให้เห็นถึงอุปทานที่ตึงตัวน้อยลง
จับตาการประชุม OPEC+ หาทิศทางอุปทานเพิ่มเติม
ตลาดยังคงต้องจับตาการประชุมขององค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งกลุ่มคาดว่าจะเลื่อนแผนการเพิ่มการผลิตออกไปอีก
OPEC+ ได้ปรับลดแนวโน้มความต้องการน้ำมันในปี 2024 และ 2025 อย่างต่อเนื่อง โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตในประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอย่างจีน
การขยายระยะเวลาการลดอุปทานของ OPEC+ มีแนวโน้มที่จะหนุนราคาน้ำมันในช่วงปี 2025 โดยการทำให้ตลาดตึงตัวมากขึ้น